ศาลแขวงสั่งจำคุก 6 เดือน "เสี่ยท็อป" ลวงโลกหมื่นล้าน คดีเช็คเด้ง คดีถึงที่สุด เพราะไม่อุทธรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนด - ส่งเข้าเรือนจำฯ โดยภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายธนณัฏฐ์ ไปยังศาลเเขวงพระนครเหนือ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุรพล สินธุนาวา ทนายความของ นายธนณัฏฐ์ สิริปิยพร หรือ "เสี่ยท็อป" อายุ 49 ปี เปิดเผยถึงคดีที่ทำให้ เสี่ยท็อป ถูกจับกุม ว่า เมื่อปี 2559 เสี่ยท็อป ได้ตกลงกับคู่ค้า จะลงทุนทำธุรกิจเสริมความวงเงิน 8 ล้าน ต่อรองลงมาเหลือ 4.5 ล้าน และ ตกลงกัน ล่าสุดเหลือ 1 ล้านบาท โดยเสี่ยท็อป ได้จ่ายเป็นเช็คให้ แต่เช็คไม่สามารถ ขึ้นเงินได้ หรือ เช็คเด้ง ทำให้ คู่กรณีมาฟ้องร้อง เสี่ยท็อป ต่อศาลแขวงพระนครเหนือ มารดาของเสี่ยท็อป จึงได้นำโฉนดที่ดิน ที่ลำลูกกาคลอง 4 มาวางไว้เพื่อเป็นหลักค้ำประกัน ว่า จะนำเงินมาชดใช้ให้ ในภายหลัง ซึ่งขณะนี้ โฉนดที่ดิน ก็ยังอยู่กับคู่กรณี และยังไม่มีการเซ็นต์โอนที่ดินให้กันแต่อย่างใด เมื่อถึงวันฟังคำพิพากษา ในวันที่ 14 พ.ย.2559 เสี่ยท็อป กลับไม่มาฟังคำพิพากษา และไม่อ้างเหตุแห้งความจำเป็น โดยอ้างว่าเพียงว่า ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยสั่งจำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ แก้การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับให้ออกหมายจับ จำเลยไว้ จากนั้น เสี่ยท็อป ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ตามระยะเวลา ที่กฎหมายกำหนด ทำให้ขาดอุทธรณ์ และทำให้คดีถึงที่สุดแล้ว หลังจากตำรวจ ติดตาม จับกุมตัวเสี่ยท็อปได้จึงนำส่งศาล ศาลได้แจ้งผลคำพิพากษา ให้เสี่ยท็อป ทราบว่า คดีนี้ ถึงที่สุดแล้ว และให้รับโทษตามคำพิพากษาคือ จำคุก 6 เดือน จึงต้องส่งตัวไปคุมขังที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยญาติจะไปเยี่ยมเสี่ยท็อป ที่เรือนจำฯ ในช่วงบ่ายนี้ ทนายความ ยังระบุด้วยว่า ตัวเสี่ยท็อป เองอ้างว่ามีความกังวลเรื่องของสุขภาพ เนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน และกังวลเรื่องเงินจากการทำธุรกิจที่จะได้รับประมาณ 1000 ล้านบาท แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นธุรกิจ ด้านไหน และเกี่ยวกับเรื่องอะไร