วันที่ 18 ตุลาคม นายประมวล พงศ์ถ่าวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนชาว อ.ทับสะแกให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดิน กรณีกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาใช้งบก่อสร้างสนามกีฬาทับสะแก 24.4 ล้านบาท ริมถนนเพชรเกษม หมู่ ต.แสงอรุณ จากนั้นสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดรับมอบโครงการจากผู้รับเหมา เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 แต่ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดรับมอบสนามกีฬาและอาคารเอนกประสงค์ เพื่อใช้ประโยชน์ให้มีความคุ้มค่า สำหรับการก่อสร้างโครงการลักษณะนี้เป็นการประจานการทำงานที่ล้มเหลวของหน่วยงานส่วนกลาง และ ระบบราชการบริหารส่วนภูมิภาคทั้งระดับจังหวัดและอำเภอที่สมคบคิดหาวิธีการใช้งบประมาณ โดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าทั้งที่กรมพลศึกษามีเพียงงบก่อสร้างสนาม ไม่มีระบบไฟฟ้า ประปา ไม่มีงบประมาณเพื่อจ้างบุคลากรดูแลในระยะยาว ไม่มีหน่วยงานใดจะรับมอบเพื่อนำไปบริหารจัดการ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดปล่อยให้ก่อสร้างโดยไม่ทักท้วง เพราะทราบดีว่าต้องเร่งรับใช้งบให้ทันกับการเบิกจ่าย ที่สำคัญมีการก่อสร้างในที่ที่ดินตามหนังสือสำคัญหลวง (นสล.)โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย ที่สำคัญสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินไม่เคยให้ความสนใจตรวจสอบข้อพิรุธในการใช้ที่ดินและงบประมาณ น่ายประมวล กล่าวว่า จากการติดตามตรวจสอบพบว่ารองผู้ว่าราชการจังหวัดได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาฯ เพื่อหารือแนวทางการใช้ประโยชน์สนามกีฬาทับสะแก ล่าสุดสั่งการให้สำนักงานการท่องเที่ยวฯทำการสำรวจและซ่อมแซมสนามกีฬาให้อยู่ในสภาพดี ก่อนหมดสัญญารับประกันงาน 2 ปีในเดือนกุมภาพันธ์ 2563จากนั้นจะมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) แสงอรุณ นำเรื่องการรับมอบสนามกีฬาเข้าสู่การพิจารณาของสภาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นการยื้อเวลาเพื่อปัดความรับผิดชอบ ทั้งที่ทุกฝ่ายทราบดีว่า อบต.แสงอรุณมี 6 หมู่บ้านมีรายได้น้อย และช่วงต้นปีหน้าจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.)ก็ปฏิเสธสามารถรับมอบได้เพราะติดเงื่อนไขจากหน่วยงานตรวจสอบ ดังนั้นขอให้กรมพลศึกษาและผู้บริหารจังหวัดประจวบฯชี้แจงหลักการเหตุผลก่อนใช้งบสร้างสนามกีฬาทับสะแกให้ชัดเจน ข้าราชการที่รับผิดชอบอย่าใช้เหลี่ยมทำนิ่งเพื่อรอย้ายหรือรอเกษียณ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่บกพร่องต้องนำมาลงโทษ อย่ากลัวว่าข้าราชการระดับสูงบางรายจะเดือดร้อน มีรายงานว่า ก่อนการรับมอบสนามกีฬาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2561 สำนักงานการท่องเที่ยวฯได้ทำหนังสือลงวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ถึงนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอใช้พื้นที่โครงการก่อสร้างสนามกีฬาทับสะแก เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย หลังจากกรมพลศึกษาได้รับงบประมาณตั้งแต่ปี 2558 ผูกพันถึงงบประมาณปี 2561 โดยก่อนหน้านั้น นายนภดล วรกัลป์ อดีตนายอำเภอทับสะแกได้ทำหนังสือลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2558 แจ้งถึงสำนักงานการท่องเที่ยวฯยืนยันว่าไม่ขัดข้องในการใช้ที่ดิน นสล. แต่ขอให้ดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย หลังจากนายเสมา วนะสิทธิ์ อดีตหัวหน้าสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาได้ทำหนังสือถึงนายอำเภอทับสะแก ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะเดียวกันมีรายงานจากหน่วยงานตรวจสอบในระดับจังหวัด ระบุว่า การใช้พื้นที่ มีปัญหาจากการขอใช้ที่ดิน นสล.จากกระทรวงมหาดไทย แม้ว่า นสล. จะใช้ประโยชน์จากสนามกีฬาประจำอำเภอ แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าในพื้นที่บริเวณเดียวกันมีการก่อสร้างอาคารของสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ และอาคารเอนกประสงค์ จะต้องตรวจสอบว่าในอดีตสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สพป.) เขต 1 ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่จากกระทรวงมหาดไทยด้วยหรือไม่ หลังจากฝ่ายปกครองอำเภอได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อสร้างสนามกีฬา โดยมีอาคารเอนกประสงค์ทับซ้อนอยู่ในพื้นที่เดิม และมีการเร่งรัดการใช้งบให้เบิกจ่ายได้ภายในปีงบประมาณ โดยไม่แจ้งให้สภา อบต..ในพื้นที่รับทราบก่อนและไม่ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างจาก อบต.แสงอรุณตามมาตรา 32 พรบ. ควบคุมอาคาร 2522