เรียกเสียงฮือฮาจากประชาคมทั่วโลก สำหรับ ภาพที่ปรากฏ “คิม จอง-อึน” หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “คิมน้อย” ประธานสูงสุดแห่งประเทศเกาหลีเหนือ หรือโสมแดง กำลังควบขี่เหยาะย่างบนหลังอาชา ตะลุยไปตามทางลาดชันของยอดแพ็กตู ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมาปกคลุมจนขาวโพลน ภายหลังจาก “เคซีเอ็นเอ” สำนักข่าวสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลเปียงยาง ทางการเกาหลีเหนือ แพร่ภาพให้ชาวโลกได้ยินยล ก็ส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์ ได้ทำงานด้วยการแสดงทรรศนะไปต่างๆ นานา โดยต่างระบุว่า นี่!...มิใช่ครั้งแรกที่ประธานสูงสุดแห่งแดนโสมขาว เดินทางไปยังยอดเขาซึ่งมีขนาดความสูง 2,750 เมตร อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศเกาหลีเหนือแห่งนั้น ทั้งนี้ ด้วยมีข่าวที่เป็นรายงานอย่างเปิดเผย ระบุมาว่า “คิม จอง-อึน” ได้เคยเดินทางบนยอดแพ็กตูมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการไปพบปะกับเหล่าคณะนักบินของฝูงบินขับไล่ของกองทัพอากาศแห่งเกาหลีเหนือ เมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2558 (ค.ศ. 2015) การเดินทางไปก่อนหน้าที่เขาจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อประชาชนชาวเกาหลีเหนือทั้งประเทศ เนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ เมื่อปี 2560 (ค.ศ. 2017) และเมื่อปีที่แล้ว 2561 (ค.ศ. 2018) “คิมน้อย” ก็ควงคู่มากับ “ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผู้นำเกาหลีใต้” เดินทางมาขึ้นยอดเขาแห่งนี้ เพื่อเจรจาสางปัญหาความขัดแย้งบนคาบสมุทรเกาหลี อันเป็นประเด็นปัญหาที่สร้างความหวั่นวิตกให้แก่ใครต่อใครไปทั่วโลกว่า ความขัดแย้งจะลุกลามบานปลายออกไปกลายเป็น “สงคราม” กันขึ้น ล่าสุด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา “คิม จอง-อึน” ก็เดินทางไปยังยอดเขาแพ็กตูอีกคำรบ โดยคราวนี้ใช้วิธีควบม้าสีขาว ราวกับสีหมอก ขึ้นยอดเขา เหล่านักวิเคราะห์ อย่างบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือแห่งมหาวิทยาลัยกุกมิน ในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ เพื่อนร่วมชาติบ้านใกล้เรือนเคียง แสดงทรรศนะกันว่า ภาพที่ปรากฏออกมา หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องแปลก และชวนให้ขบขัน แต่ก็ต้องขอบอกว่า เป็นเรื่องที่ขำกันไม่ออก เพราะนี่!...คือ การจัดฉากสร้างภาพประการหนึ่งของทางการเกาหลีเหนือ เพื่อให้ภาพที่ออกมาของ “คิม จอง-อึน” เป็น “ผู้นำที่ยิ่งใหญ่” ด้วยสัญลักษณ์ที่แสดงออกหลายประการ ไล่ไปตั้งแต่การที่เขาขี่ม้าไปตามเส้นทางที่ดูเหมือนว่า เดินทางยากลำบาก ซึ่งปกคลุมด้วยหิมะตกลงมาปกคลุมจนขาวโพลน เช่นเดียวกับ “สถานที่” คือ “ยอดเขาแพ็กตู” ซึ่งยอดเขาแห่งนี้ แท้จริงแล้ว ก็คือยอดเขาของภูเขาไฟที่ยังคงมีพลัง พร้อมที่จะระเบิดลาวาออกมา โดยยอดเขาของภูเขาไฟดังกล่าว ก็อยู่ในเทือกเขาแพ็กตูแทกัน ในภาษาเกาหลี หรือภาษาจีนเรียกว่า “เทือกเขาฉางไป๋” เป็นเทือกเขาที่อยู่ระหว่างพรมแดนจีนแผ่นดินใหญ่กับเกาหลีเหนือ และบริเวณของยอดเขาก็มี “ทะเลสาบ” อันเป็น “ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟ” ชาวเกาหลีเรียกว่า “ทะเลสาบสวรรค์” ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมระดับแถวหน้าของประเทศ ทั้งนี้ สาระสำคัญที่ทำให้ “คิมน้อย” ต้องควบขี่อาชาขึ้นสู่ยอดเขาแห่งนี้อีกประการหนึ่งก็คือ “ยอดเขาแพ็ก ตู” ได้รับความเคารพนับถือจากชาวเกาหลีมาตั้งแต่ครั้งโบราณแล้วว่า เป็น “สถานที่ศักดิ์ศักดิสิทธิ์” ของพวกเขา ในฐานะ “สถานที่ประสูติ” ของ “พระเจ้าทันกุนวังกอม” ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรโชซ็อนโบราณ เมื่อราวกว่า 4,000 ปีมาแล้ว เรียกว่า เป็นยอดเขาที่มีตำนาน ประวัติศาสตร์ ของชาวเกาหลีมาแต่ครั้งโบราณกาล ส่วนชาวเกาหลี โดยเฉพาะชาวเกาหลีเหนือในยุคปัจจุบัน ก็ให้ความเคารพต่อยอดเขาแพ็กตูแห่งนี้ ในสถานที่กำเนิดของ “คิม จอง-อิล” อดีตผู้นำสูงสุดของประเทศคนที่แล้ว และเป็นบิดาของ “คิม จอง-อึน” ผู้นำประเทศคนปัจจุบันด้วย อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องสถานที่กำเนิดของ “คิม จอง-อิล” นั้น นักวิเคราะห์หลายคนไม่ค่อยเชื่อในเรื่องนี้สักเท่าไหร่ โดยเห็นว่า อาจจะเป็นเรื่องราวที่แต่ง หรือกุขึ้นมา เพื่อ “โฆษณาชวนเชื่อ” ให้อดีตผู้นำโสมแดงคนที่แล้ว ดูยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้นเอง บรรดานักวิเคราะห์ยังแสดงทรรศนะด้วยว่า การเดินทางมายังยอดเขาที่เชื่อกันว่า มีความศักดิ์สิทธิ์ของชาวเกาหลีมาตั้งแต่โบราณกาลหนนี้ “คิม จอง-อึน” ก็คงมีเรื่องสำคัญให้เขาต้องตัดสินใจอะไรสักอย่างหนึ่ง เหมือนกับที่เขาเคยเดินทางมายังยอดเขาแพ็กตูแห่งนี้ ก่อนตัดสินใจรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้เมื่อช่วงปีก่อน รวมถึงการตัดสินใจในการแสวงหาวิธีรับมือกับสหรัฐอเมริกา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนับจากนี้ หลังจากที่การเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายในการคลี่คลายปัญหาอาวุธนิวเคลียร์ไม่มีความคืบหน้า และในระหว่างที่เดินทางมาครั้งนี้ ทาง “คิมน้อย” ก็ถือโอกาสตรวจงานก่อสร้างในโครงการพัฒนาพื้นที่ป่าบริเวณปริมณฑลยอดเขาแพ็กตูให้เป็นสถานท่องเที่ยวยอดนิยมของทั้งในและต่างประเทศไปอย่างพร้อมสรรพ ซึ่งโครงการฯ ได้คืบหน้าเข้าสู่วาระเฟสสองแล้วสำหรับการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว