“วิษณุ” แถลงเลื่อนวันเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค จาก 24 ต.ค. เป็น 12 ธ.ค. เหตุ สภาพกระแสน้ำ-อากาศ ยืนยัน กระบวนพยุหยาตรายังยิ่งใหญ่สวยงามเหมือนเดิม เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่รัฐสภา เกียกกาย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าว ว่า นายกฯ และรองนายกฯ หลายคน ได้หารือกันหลังจากติดตามสถานการณ์มาเป็นระยะ กรณีที่มีการประกาศและออกข่าวว่าจะมีการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ในวันที่ 24 ต.ค. เวลา 15.30 น. นั้น หลังจากมีการซ้อมมาแล้ว 10 ครั้ง และซ้อมใหญ่เสมือนจริงในวันนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปตรงกันว่า หากยังจะมีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ตามวันและเวลาเดิม จะมีอุปสรรค ในเรื่องเกี่ยวกับสภาพของกระแสน้ำ และดินฟ้าอากาศ นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อเป็นเช่นนี้เพื่อความพร้อมและความสวยงาม และไม่กระทบกระเทือนต่อขบวนเรือ และไม่กระทบกระเทือนต่อการเสด็จพระราชดำเนิน และไม่กระทบกระเทือนต่อประชาชน จึงได้นำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอประทานพระบรมราชวินิจฉัย ที่จะให้เลื่อนกำหนดเวลา ของการมีขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จากวันที่ 24 ต.ค. เป็นวันที่ 12 ต.ค. เวลา 15.30 น. โดยริ้วขบวนยังจะเป็นตามรูปแบบเดิม คือขบวนพระยุหยาตราทางชลมารคใหญ่ ใช้ขบวนเรือ 52 ลำ แต่ให้เลื่อนกำหนดวันออกไป เนื่องจากกระแสน้ำ ซึ่งประเมินจากการซ้อมย่อย และซ้อมใหญ่ที่ผ่านมาเห็นว่าจะไม่สามารถรักษากระบวนแบบแผนและความสวยงามไว้ได้ ควรจะให้ผ่านช่วงเวลานี้ไป จึงยืนยันอีกครั้งว่ามีพระบรมราชวินิจฉัยว่า ให้กำหนดเป็นเป็นวันที่ 12 ธ.ค. โดยในช่วงก่อนหน้านั้นตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ หลังจากนั้นจะมีเสด็จประพาสสำเพ็ง และงานอุ่นไอรัก “ในวันจันทร์ ที่ 21 ต.ค. จะมีการประชุมใหญ่ และจะแถลงข่าวร่วมกันอย่างเป็นทางการระหว่างผู้แทนจากสำนักพระราชวัง กองทัพเรือ และรัฐบาล เพื่อส่งสัญญาณบอกไปยังประชาชน ซึ่งอาจจะต้องจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และร้านอาหารล่วงหน้าใหม่ ยืนยันว่าขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ยังมีอยู่อย่างยิ่งใหญ่ และสวยงามอย่างเดิม แต่เพื่อความเหมาะสมของกระแสน้ำและสภาพอากาศ จึงควรเลื่อนไปเป็นวันที่ 12 ธ.ค.โดยในเดือนธันวาคมจะไม่มีฝนตกแล้ว กระแสน้ำก็จะไม่มีการปล่อยระบายมาจากภาคเหนือ” นายวิษณุ กล่าว นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องกระแสน้ำที่จะมี โดยในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ จะมีการซ้อมใหญ่เสมือนจริงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนั้น จะมีการประชุมใหญ่กันอีกครั้งที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 10.00 น.ซึ่งตนจะเป็นประธานการประชุมดังกล่าว และมีผู้แทนจากสำนักพระราชวัง กองทัพเรือ และรัฐบาล เข้าร่วมประชุม และพร้อมตอบคำถามในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการหลังจบประชุม อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันพ่อแห่งชาติ, วันที่ 6 ธันวาคม จะทรงเสด็จประพาสพระราชดำเนินเยี่ยมสำเพ็ง, วันที่ 8 ธันวาคม จะมีพิธีเปิดงานอุ่นไอรัก และวันที่ 12 ธันวาคม จะเป็นการเสด็จเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค