เมื่อวันที่ 17 ต.ค.62 พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อนุชา ธนะอุดม รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/26 ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 236/2562 ลง 14 ส.ค.62 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง" ได้ที่ รีสอร์ทบ้านไร่เพชรรัตน์ หลังที่ 3 หรือสิริลักษณ์เพลส ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 8 หนองตะภู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สืบเนื่องจากเดือน ส.ค.-ก.ย.62 มีกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 100 คน ทั่วประเทศ ได้เดินทางไปร้องทุกข์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายใน และศูนย์ดำรงธรรม และกองปราบปราม ว่าถูก บริษัท โกลด์ ฟาเธอร์ 1978 จำกัด หลอกลงทุนซื้อขายทองคำ แท่งและรูปพรรณ มูลค่าความเสียหาย กว่า 1,500 ล้านบาท ผู้เสียหายกว่า 1500 คน ทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีนางสาวปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล และ นายชนุตม์ สีสังข์ สามีภรรยา อ้างจบดอกเตอร์ จากอเมริกา เป็นกรรมการผู้จัดการร่วมบริหารบริษัท เมื่อปี 60 โดยนางสาวปริยันก้า ผู้ต้องหามีการจัดสัมมนาโฆษณาชักจูงให้ร่วมออมทองและเก็งกำไรทองคำแท่ง ล่วงหน้า และการขายทองคำออนไลน์ และเว็บไซด์บริษัท สร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งตั้งตัวแทนบริษัทเกือบทุกจังหวัดกว่า 100 คน เพื่อไปแนะนำหาสมาชิก(เหยื่อ ) ทั่วประเทศ โดยการสมัครเป็นสมาชิกจำหน่ายทองคำรายละ 5,999 บาท อ้างกับสมาชิก ว่าจะให้ผลกำไรตอบแทน 1. ซื้อทองคำราคาถูกกว่าท้องตลาดสูงถึงร้อยละ 15- 20 2. หากเป็นการออมทองคำ หรือ ซื้อแล้วฝากบริษัทขาย หากราคาทองขึ้นก็จะโอนค่าส่วนต่าง ให้กับสมาชิกโดยภายใน 1 เดือน จะเปิดให้สมาชิกซื้อขาย 2 รอบ ทุกวันที่ 15 และ 25 ของทุกเดือน หรืออ้างว่าซื้อทองจาก 15,000 บาท นำออกไปขายได้ในราคา 19,000 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินไปให้กับบริษัท โดยผ่านทางบัญชีบริษัท และผ่านทางบัญชีประธานบริษัท ครั้งละ หลายแสน หรือหลายสิบล้านบาท รวมเงินหมุนเวียน กว่า 1,500 ล้านบาท โดยมีแผนประทุษกรรมจะให้สมาชิกหลงเชื่อ โอนเงิน มาซื้อทองคำและทองรูปพรรณ แกล้งส่งมอบทองคำ และ ส่วนต่างหากทองคำราคาขึ้น ให้จริงเพียง 4 ถึง 5 เดือน เท่านั้นต่อมา สบโอกาสมีสมาชิกและลูกค้าจำนวนหลายพันราย โอนเงินเข้ามาซื้อทองคำ เป็นพันล้านบาท น.ส.ปริยันก้าฯ กับพวก ได้บ่ายเบี่ยง ไม่ส่งมอบทองคำ และผลตอบแทน สมาชิกตามเงื่อนไข ช่วงเดือนธันวาคม 60 แล้วปิดบริษัทหลบหนีเวลาต่อมา ทำให้สมาชิก ได้รับความเสียหาย อย่างหนัก เป็นบริเวณกว้างทั่วประเทศ สมาชิก หลายพันคน ต่างร้องขอความเป็นธรรม สถานที่ราชการต่างๆ และเข้าแจ้งความหลายท้องที่ เพื่อดำเนินคดีกับขบวนการนี้ เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนท้องที่ได้จับสามีผู้ร่วมขบวนการ นายชนุตม์ สีสังข์ ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 237/2562 ลงวันที่ 15 ส.ค.62 ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ไปแล้ว ส่วน น.ส.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล ผู้ก่อตั้งตัวการสำคัญหลบหนี พร้อมพยานหลักฐานสำคัญ และซุกซ่อนทรัพย์สินของผู้เสียหายจำนวนมากไว้ด้วย ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ต.ค.62 ตำรวจกองปราบ สืบทราบว่า น.ส.ปริยันก้าฯ หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกบดานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จึงได้นำกำลังปิดล้อมทางเข้า-ออก พื้นที่เป้าหมายและให้ พ.ต.ต.กิตติภพ ทองเพชร สว.กก.3 บก.ป. เป็นผู้นำขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว(ปากช่อง)ที่ 13/2562 ลง16 ต.ค.62 บุกตรวจค้น รีสอร์ทบ้านไร่เพชรรัตน์ หลังที่ 3 หรือสิริลักษณ์เพลส หมู่ที่ 8 หนองตะภู ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง สมุดบัญชีธนาคาร 20 รายการ โทรศัพท์ และ โน๊ตบุ๊ค 10 รายการ สลิปโอนเงิน และเอกสารการเงิน กว่า 2000 รายการ เอกสารบริษัท 500 รายการ รถยนต์ บีเอ็มดับบิว 1 คัน เอกสารที่ดินและบ้าน 10 รายการ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในบ้านดังกล่าว ทั้งนี้ จากการ ตรวจสอบ พบว่า นางสาวปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล และ นายชนุตม์ สีสังข์ มีเอกสารประกาศ จบดอกเตอร์ จาก EDMONTON UNIVERSITY ประเทศอเมริกา สอบถามอ้างว่า เรียนออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต และ ส่งใบจบการศึกษามาให้โดยไม่ต้องไปรับที่อเมริกา แต่อย่างใด เบื้องต้นฝ่ายสืบสวนไม่ปักใจเชื่อ น่าจะเป็นใบประกาศสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสมาชิก เพื่อหลอกประชาชน ทั้งยังมีการเปลี่ยนชื่อ มาแล้ว1.มยุรา สาชิน 2.พัทริรา ศรีสังข์ 3.ปิยภรณ์ ศรีสังข์ 4.ณัชชา รักษพลเดช 5.ภาวนา ตั้งภาวนาสกุล 6.ปริยันก้า ตั้งภาวนาสกุล ตรวจสอบพบหมายจับ 1.หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ 180/2562 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน สภ.วารินชำราบ 2.หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ 182/2562 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน สภ.วารินชำราบ 3.หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ 184/2562 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน สภ.วารินชำราบ 4.หมายจับศาลจังหวัดอุบลราชธานีที่ 185/2562 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน สภ.วารินชำราบ 5.หมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 236/2562 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกง สภ.เมืองขอนแก่น 6.หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 232/2562 ข้อหา ให้กู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงินมีการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป สภ.กระทู้ 7.หมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 234/2562 ข้อหา ให้กู้ยืมเงินหรือจะกู้ยืมเงินมีการโฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไป สภ.กระทู้ 8. สภ.วารินชำราบ อยู่ระหว่างออกหมายจับอีก 3 หมาย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม สั่งให้ดำเนินการตรวจสอบผู้ต้องหา พยานหลักฐานเส้นทางการเงิน กว่า 1500 ล้านบาท และหลักฐานผู้ร่วมขบวนการอื้อเตรียมสั่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการและทรัพย์สินที่ยังซุกซ่อนไว้ คืนผู้เสียหาย หลังก่อเหตุ ปี 61 ปิดบริษัทหนีกบดานคฤหาสน์หรูตากอากาศ เมืองโคราช ซุกซ่อนหลักฐานเพียบ กว่า 2000 รายการ สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ส่วนข้อหาอื่นๆ ยังไม่ขอให้การแต่อย่างใด จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีต่อไป