วันที่ 17 ต.ค.62 เมื่อเวลา 01.00 น. ร.ต.อ.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถกระบะชนประสานงานกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายทุ่งใหญ่ พระแสง หมู่ 2 เขตเทศบาล ต.ท่ายาง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.สุริยา มาลา รอง สวป.หัวหน้าชุดสายตรวจรถยนต์ พญ.ปันรัตน์ คงทวี แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ จนท.มูลนิธิศรัทธาสามัคคีการกุศล ที่เกิดเหตุพบศพ นายรัตนศิลป์ หรือท๊อป บำรุงศรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช อาชีพเป็นช่างสักลาย สภาพศพมีร่องรอยถูกชนศีรษะแตกเลือดไหลนองพื้น นอกจากนียังพบ รถจักรยานยนต์ซูซูกิสแมซ สีดำ ทะเบียน ขฉง 626 นครศรีธรรมราช สภาพพังยับ ที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนอะไหล่รถจักรยานยนต์และตราชิ้นส่วนรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ตกกระจายเกลื่อนถนน นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยการเบรกของรถยนต์คู่กรณี ที่กินเลนเข้ามาในเลนของรถจักรยานยนต์ ห่างจากเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร เจ้าหน้าที่ไปพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน ตอนเดียวแบบโฟร์วีล สีเทา ทะเบียน 2 ฒบ 983 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ข้างบ้านเลขที่ 348 หมู่ 2 ต.ท่ายาง พบที่หน้ารถด้านซ้ายสภาพถูกชนพังยับ ภายในห้องเครื่องหน้ารถทั้งฝั่งคนขับและคนนั่งข้างคนขับถุงลมนิรภัยพองออกทำงานทั้งสองฝั่ง เอกสารรถที่อยู่ภายในรถระบุชื่อผู้ครอบครองรถคือนายธีระยุทธ์ กฐินหมอ มีคนรู้จักชื่อเล่นว่าบี อยู่บ้านเลขที่ 348 หมู่ 2 ต.ท่ายาง ตรงกับเลขที่บ้านที่นำรถเข้ามาจอดไว้หลังชนแล้ว สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายรัตนศิลป์ หรือท็อป อาชีพช่างสักลายตามร่างกาย ผู้เสียชีวิตขับรถจักรยานยนต์กลับจากไปร่วมงานศพญาติที่บ้านวังหิน ต.ทุ่งสัง กลับบ้านพักที่อยู่หลังโรงพักทุ่งใหญ่ มาถึงที่เกิดเหตุใกล้กับทางโค้ง มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตรซูบิชิ ไททัน ที่เจ้าหน้าที่ไปพบว่าจอดอยู่ข้างบ้านห่างจากจุดเกิดเหตุไป 200 เมตร ขับสวนทางแหกโค้งกินเข้ามาในเลนที่นายรัตนศิลป์ ผู้ตายขี่อยู่ พุ่งชนประสานงานอย่างจังเสียงดังสนั่น ทั้งรถจักรยานยนต์และคนขี่กระเด็นไปไกลจากจุดชน จนไปพบกลายเป็นศพนอนอยู่กลางถนนถึง 35 เมตร ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านที่พบรถยนต์กระบะคันก่อเหตุ ซึ่งคู่กรณีนำไปจอดไว้ พบว่าภายในบ้านปิดไฟมืดสนิท เรียกให้คนในบ้านออกมาพบก็ไม่มีใครออกมา เจ้าหน้าที่จึงพากันกลับไปและให้โอกาสถึงตอนเช้า อย่างไรก็ตามหากยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนจะไปขออนุมัติศาลออกหมายจับแจ้งหลายข้อหา