ตามที่สภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2563 ในวันที่ 17-19 ต.ค.นี้และเป็นการอภิปรายวาระแรกเพื่อพิจารณารับหลักการ ซึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้ยื่นของบประมาณจำนวน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 2 แสนล้านบาทนั้น เมื่อพิจารณาการยื่นของบประมาณของแต่ละกระทรวงแล้ว ทำให้เป็นที่กังวลเป็นอย่างมากว่า เหตุใดรัฐบาลจึงยังมุ่งเน้นการเพิ่มงบประมาณให้กับกระทรวงกลาโหมมากขึ้นอีก ทั้งๆที่ความเสี่ยงด้านขัดแย้งในภูมิภาคไม่มี เพราะปี 2563 กระทรวงกลาโหมของบประมาณ 233,353,433,300 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 จำนวนถึง 6,226,867,000 บาท โดยปี 2562 ได้งบประมาณทั้งสิ้น 227,126,566,300 บาท และเมื่อพิจารณาการจัดสรรงบประมาณ 5 ปีย้อนหลังนับแต่ในสมัยรัฐบาลที่มี คสช. ควบคุมอยู่ก็จะพบว่ามีการเพิ่มงบประมาณให้กระทรวงกลาโหมมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปี 2558 จำนวน 192,949 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 206,461 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 213,449 ล้านบาท ปี 2561 จำนวน 229,383 ล้านบาท มาปี 2562 ลดลงเล็กน้อย จำนวน 227,126 ล้านบาท แต่พอมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกลับยังเพิ่มงบประมาณให้อีกถึง 233,353 ล้านบาท ซึ่งชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่อาจหลีกพ้นอิทธิพลของฝ่ายทหารการเมืองไปได้เลย ทั้ง ๆ ที่ในยุคไทยแลนด์ 4.0 นี้กระทรวงกลาโหมควรปรับลดงบประมาณลงเสียอย่างน้อยกึ่งหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ทันที เช่น การปรับลดทหารยศนายพลลงเหลือ 1 ใน 3 ในทุกเหล่าทัพจากประมาณ 1,500 คนให้เหลือเพียงไม่เกิน 500 คน เพื่อให้เหลือนายทหารชั้นนายพลเท่าที่จำเป็นและมีภารกิจงานที่ต้องทำเท่านั้น เพราะทุกวันนี้มีนายทหารระดับสูงจำนวนมากที่มีเวลาว่างไปเล่นกอล์ฟ ไปจัดทอล์คโชว์จนกลายเป็นทหารการเมืองไปแล้ว นอกจากนั้นต้องลดการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เรือดำน้ำ เรือรบ เครื่องบิน รถถัง ของทุกเหล่าทัพลง ยกเลิกการสร้างบ้านพักคฤหาสน์หรูให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงใช้ และทวงคืนบ้านพักนายทหารที่เกษียณไปแล้วแต่ยังไม่ยอมย้ายออกด้วย รวมทั้งการปรับลดการเกณฑ์พลทหารลง 1 ใน 3 เป็นต้น เพราะกำลังกลายเป็นช่องทางให้คอรัปชั่นของผู้บังคับหน่วยหลายประการ ยกเลิกพลทหารรับใช้บ้านนาย และทหารติดตามนายเสีย ทั้งนี้งบประมาณของกระทรวงกลาโหมที่ตัดลดลงมา จะสามารถนำไปช่วยในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาสินค้าราคาแพง ปัญหาการว่างงานที่นับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจจุลภาคและมหภาคของประเทศได้ดีเลยทีเดียว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงขอเรียกร้องให้ สส.ทุกท่านผลักดันให้ตั้งกรรมาธิการพิจารณางบฯในวาระ 2 ได้กล้าหั่นงบ กท.กลาโหมลงเสียกึ่งหนึ่ง เพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศในที่สุดต่อไป