นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในงานประชุมสัมมนา DASTA Forum 2019 หัวข้อมองมิติใหม่เพื่อการท่องเที่ยวไทยที่ยั่งยืน ว่า ตามที่ได้มอบนโยบายให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำหรับเป็นแนวทางการดำเนินงาน คือ ความปลอดภัย ความสะอาด ความเป็นธรรม และกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยมีองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ซึ่งเพิ่งเข้ามาในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ลักษณะการทำงานถือเป็นหน่วยงานสำคัญ เป็นหน่วยงานต้นน้ำด้านการท่องเที่ยว ด้วยภารกิจการพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้กับ ชุมชน และแหล่งท่องเที่ยว เป็นฐานสำคัญที่จะทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนหน่วยงานกลางน้ำคือกรมการท่องเที่ยว และปลายน้ำคือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ทำการตลาด สร้างซัพพลายการท่องเที่ยวยั่งยืน ซึ่ง นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 3.38 ล้านล้านบาท ดังนั้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรัฐบาลกำหนดเป้าหมายไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้มีสัดส่วน 22% ต่อ GDP ในปี 2565 และเพิ่มขึ้นเป็น 30% ต่อ GDP ในปี 2580 โดยมี อพท. ทำหน้าที่พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ สร้างต้นแบบการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและการท่องเที่ยวโดยชุมชน มีการออกแบบ และวางแผนการพัฒนาให้เป็นไปตามกรอบความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการทำงานให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ด้วยการพัฒนาซับพลายป้อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยเติบโตแบบยั่งยืน ซึ่งในปี 2562 มีพื้นที่ต้นแบบชุมชนมี เพื่อส่งต่อให้กรมการท่องเที่ยว และ ททท. ไปนำเสนอขาย เพื่อเป้าหมายสำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา สู่การเป็นกระทรวงเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ ปัจจัยที่จะสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว คือ การมีหน่วยงานอย่าง อพท. ที่สามารถพัฒนาจุดแข็งด้านทรัพยากรธรรมชาติ ประเพณีวัฒนธรรม และชุมชน ให้มีการบริหารจัดการที่ดี เพราะการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน มีการผนึกกำลัง เพื่อพาการท่องเที่ยวของประเทศไทยก้าวสู่การเป็นหนึ่งในการแข่งขันระดับโลก ใช้ท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน ด้าน นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. กล่าวว่า จากนโยบายที่ได้รับมอบหมาย ทาง อพท. สามารถนำเสนอผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2562 ที่สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าวต่อไปนี้ 1. ด้านความปลอดภัย ได้ดำเนินการพัฒนาระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกด้านวัฒนธรรม และการพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก 2. ด้านความสะอาด ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมสถานประกอบการโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสถานประกอบการได้รับรางวัล กรีน โฮเต็ล จำนวน 23 แห่ง ส่วนข้อ 3. ด้านความเป็นธรรม ได้ดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงโดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้พิการ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ในการพัฒนามาตรฐานสินค้าและบริการให้มีคุณภาพ เป็นต้น 4. ด้านการกระจายรายได้สู่ชุมชน และลดความเหลื่อมล้ำ ได้ดำเนินกิจกรรมการท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ส่งผลให้ชุมชนมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้น และดัชนีการกระจายรายได้ (Gini) เฉลี่ย 0.315 ซึ่งเป็นค่าที่ดีกว่าการกระจายรายได้ของทั้งประเทศ เป็นตัวเลขที่ยื่นยันว่าท่องเที่ยวสามารถเป็นกลไกสำคัญในการช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้กับชุมชนได้จริง ทั้งนี้ภายในงาน DASTA Forum 2019 มีการจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานของ อพท. ที่น่าสนใจ อาทิเช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่ขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ CBT Thailand มีชุมชนต้นแบบในการพัฒนามากกว่า 40 ชุมชน การพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC การพัฒนาความร่วมมือการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้โครงการสี่เหลี่ยมวัฒนธรรมล้านช้าง และการส่งเสริมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดรายได้ชุมชนในพื้นที่พิเศษ ซึ่งผลการจัดเก็บข้อมูลปี 2562 ของชุมชนที่ อพท. เข้าไปพัฒนามีรายได้เสริมเพิ่มขึ้น 20.14% และผ่านเกณฑ์ระดับความอยู่ดีมีสุขที่ อพท. กำหนด 87.59%