เมื่อวันที่ 15 ต.ค.62 นายปุณณพัฒน์ มหาลี้ตระกูล ผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะประธานกรรมการบริหารและจัดการระบบควบคุมติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวและการบังคับตามคำสั่งศาลโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวการยกเลิกใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EM) ซึ่งส่งผลให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสับสนว่า สำนักงานศาลยุติธรรมได้มีการยกเลิกการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปแล้วนั้น ศาลยุติธรรมขอเรียนว่า กรมคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม ได้นำอุปกรณ์ EM มาใช้อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนตามกฎหมายอาญามาตรา 56 ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงผู้กระทำความผิดเป็นรายบุคคล โดยไม่แยกตัวผู้กระทำความผิดออกจากสังคม ซึ่งเป็นการดำเนินการภายหลังศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว โดยกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยติดกำไล EM เพื่อคุมความประพฤติของจำเลยนั้น ปัจจุบันได้มีการยกเลิกการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไล EM ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมขอชี้แจงว่า กรมคุมประพฤติดำเนินการจัดเช่าและติดตั้งอุปกรณ์เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบที่เกี่ยวข้องสำหรับติดตามตัว ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ EM มาใช้ประกอบดุลพินิจผู้พิพากษาในการอนุญาตให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว ซึ่งทางสำนักงานศาลยุติธรรมได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของบุคคล EM มาใช้ในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยอย่างต่อเนื่อง และอุปกรณ์ที่สำนักงานศาลได้นำมาใช้นั้นมีประสิทธิภาพที่ดี ไม่มีข้อขัดข้อง และไม่พบการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง จึงมิได้มีการยกเลิกการใช้อุปกรณ์ EM แต่อย่างใด บัดนี้ได้พัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีศาลทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ จำนวน 166 ศาล ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน ผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีเงินประกันตัว ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวอย่างเท่าเทียม