ที่จ.อุดรธานี เกิดเหตุสลด เครียดหนี้สิน ผู้กอง ตชด. ผูกคอตายใต้ต้นแคหลังพาหลานชาย เล่นดอกไม้ไฟในวันออกพรรษาได้แค่ 1 วัน ลูกสาวเผย พ่อเพิ่งโดนย้ายจากตชด.เชียงใหม่เข้ากทม.และ บ่นมาหลายวันมีหนี้สินโดนหักเงินเดือนจนแทบไม่เหลือ ตร.ตรวจที่เกิดเหตุคาดป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและมีหนี้สินคิดไม่ตกและไม่อยากเป็นภาระของครอบครัวจึงผูกคอตายดังกล่าว วันนี้ (14 ต.ค.62) ขณะที่ ร.ต.อ.พีรเพชร นงคะวาส รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุตำรวจตระเวนชายแดน ชั้นสัญญาบัตร ผูกคอเสียชีวิตกับกิ่งต้นดอกแคหลังบ้าน เลขที่ 82/4 ม.2 ชุมชนบ้านหนองหิน ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ขณะนี้ญาติได้ช่วยกันตัดเชือกนำร่างลงมา เพื่อทำการช่วยเหลือชีวิตแต่ช่วยไว้ไม่ทัน จึงรุดออกไปตรวจสอบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากูภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ที่เกิดเหตุพบศพ ร.ต.อ.สุริยน จงรักษ์ อายุ 58 ปี ตำแหน่ง สว.ฝสสน.1 บก.สสน.บช.ตชด. จบนักเรียนพลตำรวจภูธร 4 รุ่นที่ 13 และจบเรียนหลักสูตรสารวัตร วิทยาลัยการตำรวจ รุ่นที่ 122 สภาพศพสวมเสือยืดคอกลมสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน รองเท้าแตะสีเขียว ข้างศพพบเก้าอี้ไม้วางตั้งอยุ่กับพื้น ที่ลำคอผู้ตายพบเชือกไนล่อนสีขาวสภาพใหม่ไม่เคยใช้งานรัดแน่น ซึ่งเป็นเชือกชนิดและสีเดียวกันที่ผูกติดกับกิ่งต้นดอกแค ตรวจสอบตามร่างกายและรอบบริเวณไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายและต่อสู้ เสียชีวิตจากการผูกคอตนเองมาเสียชีวิตตั้งแต่ 7 โมงเช้าของวันนี้ ญาติไม่ติดใจในสาเหตุจึงมอบศพให้บำเพ็ญกุศลตามประเพณี สอบสวนนางบุญจันทร์ จงรักษ์ อายุ 57 ปี ภรรยายผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ เช้าวันเสาร์ที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ตายเดินทางจาก กทม.กลับบ้านมาพักในช่วงวันหยุดยาว และบ่นเรื่องหนี้สินรวมทั้งเรื่องหน้าที่การงาน ไม่ค่อยร่าเริงมีอาการเหม่อลอย และไม่พูดหยอกล้อกับลูกหลานเหมือนที่ผ่านมา ค่ำวานนี้ผู้ตายเข้านอนประมาณ 23.00 น. ตนเองตื่นขึ้นไม่พบสามี ร้องเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงเดินตามหารอบบริเวณบ้าน พบว่าใช้เชือกผูกคอกับต้นดอกแคหลังบ้าน จึงวิ่งไปบอกญาติและเพื่อนบ้านให้มาช่วยกันตัดเชือกนำร่างลงมาเพื่อช่วยเหลือชีวิต แต่ไม่ทันการ จึงโทรศัพท์บอกลูกสาวคนโต และตำรวจมาตรวจสอบ สอบสวนนางชนิดาภา ลิแบร์ อายุ 36 ปี ลูกสาวคนโตผู้ตายให้การว่า เมื่อก่อนพ่อรับราชการอยู่ที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และมีคำสั่งให้ไปดำรงตำแหน่งสารวัตรที่ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กทม.ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่พ่อกลับมาเยี่ยมบ้านพ่อจะมีนิสัยร่าเริงพูดหยอกล้อกับลูกหลาน เมื่อคืนที่ผ่านมายังเล่นดอกไม้เพลิงกับหลานชาย ซึ่งเป็นลูกของตนเอง และลูกชายบอกว่าตาไม่ค่อยพูด เล่นดอกไม้เพลิงวันออกพรรษาไม่สนุกเลย และช่วงกลางวันวานนี้ สังเกตุเห็นพ่อจะชอบนั่งซึมและเหม่อลอย และมองฝาผนังบ้านเป็นเวลานาน ทำให้ตนสังหรณ์ใจยังไงชอบกล และนอนไม่หลับทั้งคืน กระทั่งเช้าวันนี้ แม่โทรศัพท์มาบอกพร้อมกับร้องไห้ ตนยังพูดสวนแม่ไปว่าพ่อผูกคอตายไช่ไหม และมันก็เป็นเรื่องจริงที่ทำให้ตนคิดจนนอนไม่หลับทั้งคืน ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน ที่กู้มาจากสหกรณ์ฯ พ่อเป็นคนสุขภาพแข็งแรง แต่กู้เงินสหกรณ์ตำรวจมาจนถูกหักเงินเดือนไม่เหลือ ตั้งแต่ย้ายไปรับตำแหน่งที่ กทม. ลูกทั้งสามคนยังส่งเงินไปให้พ่อเป็นค่าใช้จ่ายทุกเดือนๆละประมาณ 5-6 พันบาท ส่วนเรื่องหนี้สินนอกระบบ คนในครอบครัวไม่เคยรับรู้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และเห็นพ่อพูดว่าเงินปันผลสหกรณ์จะออกวันที่ 11 ตุลาคม แต่เลื่อนไปวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งพ่อจะเดินทางไปตามเรื่องที่ จ.เชียงใหม่ ในวันนี้ แต่ก็มาผูกคอตนเองเสียชีวิตก่อนจะเดินทาง