CKPower ยิ้มรับเงินค่าหุ้น CKP-W1 กว่าพันล้านบาท TTW พันธมิตรใช้สิทธิต่อเนื่อง เชื่อมั่นบริษัทโตมั่นคงต่อเนื่อง นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ CKP เปิดเผยว่า ตามที่ CKPower ได้แจ้งกำหนดการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญ (CKP-W1) สำหรับงวดวันที่ 30 ก.ย.62 ซึ่งมีกำหนดอัตราการใช้สิทธิที่ 1.00 หน่วย CKP-W1 ต่อ 1.0007 หุ้นสามัญ ราคาการใช้สิทธิที่ 6.00 บาทต่อ 1 หุ้นสามัญ มีกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 23-29 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า มีการใช้สิทธิจากผู้ถือหน่วยจำนวน 165,034,000 หน่วย ซื้อหุ้นสามัญจำนวน 165,149,523 หุ้น คิดเป็นเงินค่าหุ้นที่ CKPower ได้รับจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท โดยผู้ถือหน่วย CKP-W1 ที่ใช้สิทธิหลักคือ บริษัททีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ซึ่งเป็นพันธมิตรรายใหญ่ โดยผลจากการใช้สิทธิ CKP-W1 ของผู้ถือหน่วยในครั้งนี้ ทำให้บริษัทมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมที่จะรองรับการขยายงานโครงการขนาดใหญ่ตามแผนที่วางไว้ และแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในการเติบโตที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในอนาคตของบริษัท โดยหลังจากการใช้สิทธิครั้งนี้ CKPower ยังมีจำนวนหุ้นสามัญที่รองรับการใช้สิทธิคงเหลืออีกจำนวน 1,110,617,961 หุ้น ทั้งนี้ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(CKP-W1)ของบริษัทมีอายุ 5 ปีนับจากวันที่เสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิเมื่อวันที่ 29 พ.ค.58 โดยบริษัทได้ออกและจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีการจองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่ออกและเสนอขายตามสัดส่วนเป็นจำนวนทั้งหมด 1,870,000,000 หน่วย มีกำหนดใช้สิทธิในวันทำการสุดท้ายของเดือนมีนาคม,มิถุนายน,กันยายน และธันวาคมของแต่ละปีตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ และวันใช้สิทธิวันสุดท้ายคือ วันที่ 28 พ.ค.63 สำหรับ CKPower ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่างๆ 3 ประเภทจำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัทไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 46% (ถือผ่านบริษัทเซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัทไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ และมีกำหนดเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในไตรมาส 4 ปี 2562 ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัทบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการภายใต้บริษัทบางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้บริษัทเชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัทนครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์