“หยก – ณัฐปภัสร์ ธนาธนมหารัตน์” นางเอกสาวจากค่ายโมโน บรอดคาสซ์ ตัดสินใจฟ้าแล่บไม่ต่อสัญญากับทางค่าย เพื่อมุ่งทำธุรกิจเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ที่ก้าวหน้าสวนทางเศรษฐกิจ ล่าสุดลงซีรีส์ “เลิฟ ซองส์ เลิฟ ซีรีส์ ขอบคุณที่รักกัน” ทาง จีเอ็มเอ็ม 25 ที่จ่อคิวลงจอเร็วๆ นี้ ชี้รับงานอิสระ หลากค่าย ได้บทที่แตกต่าง ไม่หวั่นงานน้อย เป็นแค่งานเสริม ทั้งนี้ หยก เปิดเผยว่า
“ไม่ได้ย้ายค่ายค่ะ พอดีหมดสัญญา แล้วก็ไม่ได้ต่อกับทางโมโนฯ ออกมาเป็นฟรีแลนซ์แล้วตอนนี้ พอออกมาก็เลยได้งานแกรมมี่ แต่กับทางโมโนก็ยังมีเรื่อง นางฟ้าล่าผี อยู่ เพราะเป็นภาคต่อ ซึ่งเราเล่นมา 2 แล้ว ภาค 3 ก็เลยต้องเล่น สำหรับการไม่ต่อสัญญานั้นเพราะพออายุ 25 แล้วหนูรู้สึกว่าเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเลย อยู่ดีๆ ก็คิดขึ้นมาว่า เราก็อยู่มานานมากแล้วกับที่นั่น ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้อะไรมาเยอะมาก ก็เลยคิดว่าถึงเวลาที่ออกมาโตเองบ้างได้แล้วค่ะ จริงๆ ที่ออกมา หยกก็มาทำธุรกิจของตัวเองด้วย ก็ยังมีเล่นหุ้น ทำแบรนด์ลิปติคด้วย ก็โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบจริงๆ ส่วนงานแสดงก็เสริมๆ เอา เราไม่ได้คิดว่าจะต้องมีตลอดนะ มีมาก็โอเค ก็อยากจะเป็นเวิร์คกิงวูแมนมาก ตอนนี้ก็เพิ่งปิดกล้อง เลิฟ ซองส์ เลิฟ ซีรีส์ ตอน ขอบคุณที่รักกัน ไป แล้วก็มาทำแบรนด์ลิปสติค เครื่องสำอางค์ และทำเสื้อผ้ากับเพื่อน ซึ่งธุรกิจตอนนี้ก็ไปได้เรื่อยๆ ค่ะ ดีกว่าที่คิดด้วย ซึ่งของที่หนูขายเป็นสิ่งที่หนูต้องการน่ะ อย่างเครื่องสำอางค์น่ะ ยังไงผู้หญิงก็ต้องซื้อ ไม่มีใครมีลิปสติคแค่แท่งเดียว เราก็ต้องมีหลายๆ แท่งๆ”
“สำหรับ TO BE CONTINUED ขอบคุณที่รักกัน ถือว่าเปลี่ยนบทบาทด้วยนะ เรื่องนี้เป็นภาคต่อ เป็นตัวละครใหม่ ปกติหยกอยู่โมโนฯ ก็จะเล่นเป็นแนวแบบแอคชั่นมาตลอด เป็นนางเอก อันนี้จะเป็นผู้หญิงขี้วีนนิดนึง แล้วเล่นเด็กลงด้วย ต้องเล่นเป็นเด็กปีสามปีสี่น่ะ แต่พอยู่ในกองรู้สึกแก่จังเลย น้องๆ 20,18 อะไรอย่างนี้ จริงๆ ก็คงเกี่ยวกับการออกมาทำงานอิสระด้วยทำให้เราได้บทที่หลากหลายขึ้น เพราะถ้าอยู่ในค่ายเขาก็จะวางเราเป็นนางเอก ก็จะมีบทอยู่แค่ประมาณนั้น แต่พอออกมาคนก็จะเห็นว่าเราน่าจะเล่นแบบนี้ได้ ก็เลยให้ลองเล่น พอเราเล่นแล้วก็รู้สึกชอบเลย สนุกน่ะ”