"บิ๊กตู่"ลงพื้นที่ อุบลฯ ฟื้นฟูน้ำท่วม ขอบคุณปชช.ร่วมมือรบ.แก้ไขปัญหา ยันช่วยเหลือทุกพื้นที่ แม้จะของใครก็ตาม ยินดีคุยกับทุกพรรค แต่ต้องถูกต้อง เผย กำลังศึกษาแนวทางแก้จนจากจีน ลั่นระบอบไหนขอทำประโยชน์ให้ชาติ อ้อน ขอน้ำท่วมครั้งนี้ล้างใจไม่มีบาดหมาง เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ต.ค.62 ที่ จ.อุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์เผ่าจินดา รมวมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มรว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน และพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดอุบลราชธานี โดยนายกฯและคณะ เดินทางไปยังศาลาประชาวาริน ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี และชมวีดีทัศน์สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพร้อมรับฟังรายงานสรุปสถานการณ์โดยอธิบดีกรมปภ. จากนั้น นายกฯมอบนโยบาย และมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูครัวเรือน โดยมีส.ส.ในพื้นที่ นายอิสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พลังประชารัฐ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐในพื้นที่อาทิ นายอดุลย์ นิลเปรม นายโกวิทย์ ธรรมานุชิต น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวชนายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ นายณรงค์ศักดิ์ โกศัลวัฒน์ และอดีตผุ้สมัครส.ส.ศรีสะเกษ ดร.ฤทธา นันธพันธ์ นายพิเชษฐ์ บุญเฉลียว มาต้อนรับ นายกฯ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 เพื่อมาติดตามดูแลสถานการณ์ตามนโยบายของรัฐบาล รวมไปถึงที่ผ่านมาก็ได้มีการหารือเพื่อแก้ปัญหามาโดยตลอด ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติมาตรการที่เหมาะสมให้ความช่วยเหลือ และอนุมัติงบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาททั้งในส่วนของการให้ความช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท และงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะเดียวกันได้มีการช่วยเหลือในเรื่องของการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย รวมไปถึงรถยนต์ ซึ่งการดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส รัดกุม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนขอบคุณประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา เพราะรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้เพียงตามลำพัง และขอให้ทุกคนมีกำลังใจ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็มีกำลังใจของนายกรัฐมนตรีเอง รัฐบาลยืนยันที่จะช่วยเหลือในทุกพื้นที่เพราะเป็นรัฐบาลไม่สามารถที่จะเลือกพื้นที่ได้ แม้ว่าพื้นที่นั้นจะเป็นพื้นที่ของใครก็ตามและยินดีที่จะพูดคุยกับทุกพรรคการเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประเทศ แต่จะต้องอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนกำลังให้ศึกษาแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศจีน ที่สามารถเพิ่มรายได้ประชาชน และ หลุดพ้นจากปัญหาความยากจนได้หลายร้อยล้านคนภายในเวลาไม่กี่ปี แต่วิธีการนั้นเราต้องมาดูว่าเราทำได้แค่ไหน ทำไม่ได้แค่ไหน มันแตกต่างกันอย่างไร ในระบอบประชาธิปไตยของเรา กับสังคมนิยมประชาธิปไตย บางทีมันต่างกัน แต่ทั้งหมดอย่าไปคำนึงถึงว่ามันจะเป็นระบอบอะไรเลย เอาแค่ว่า เราร่วมมือกันทำในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ต่อตัวเองและครอบครัว นั่นคือประชาธิปไตยแล้ว "ถ้าจะเอาประชาธิปไตยไปอีก จนกระทั่งไร้ขีดจำกัด นั่นก็ต้องไปดูสิว่า ประชาชนเขาว่ายังไง เขาพร้อมจะไปถึงตรงนั้นแล้วหรือยัง ผมไม่สามารถไปก้าวล่วง ก้าวล้ำ ท่านได้ สิทธิของท่าน แต่อย่าลืมว่าต้องมีหน้าที่ ความรับผิดชอบ จิตสำนึกและอุดมการณ์ ความรักชาติ ประเทศไทยผ่านวันเวลาต่างๆมายาวนานแล้ว กว่าจะเป็นเราวันนี้ หลายร้อยปีแล้ว แล้วพวกเรายังต้องสร้างคนสร้างชาติต่อไปอีกในวันข้างหน้า อีกหลายร้อยปี เราต้องสร้างชาติเราให้มั่นคงให้เข้มแข็ง อย่าไปหลงเชื่อการปลุกปั่นให้ร้ายต่างๆทำให้เกิดความเกลียดชังกัน มันต้องไม่เกิดขึ้นอีก ถึงจะแก้ปัญหาประเทศนี้ได้ แต่ผมชื่อว่าพวกเราใจสู้อยู่แล้ว คนไทยใจสู้ใช่หรือไม่" พลเอกประยุทธ์กล่าว นายกฯกล่าวว่า ตนก็มีชีวิตมาอย่างนี้ โตขึ้นมา บางเวลาก็อ่อนแอ อ่อนไหวแต่ถึงเวลาก็ต้องสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นรัฐบาลเป็นข้าราชการเราต้องทำเพื่อคนอื่น และทำในสิ่งที่ถูกต้อง และวิธีที่ถูกต้องด้วย การทำให้คนรักนะมันง่าย แต่มันรักชั่วคราวหรือเปล่า ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติหรือไม่ นี่เป็นสิ่งที่ตน คำนึงเสมอมา ทุกพื้นที่ทั้งประเทศเพราะรัฐบาลนี้ประกอบด้วยหลายพรรคการเมือง เรารักกันดีมาตลอด เมื่อลงมาเยี่ยมเยียนทุกท่านมารับฟังความคิดเห็นฝ่ายค้านเราก็รับฟัง หลายอย่างที่ส.ส.เขาพูดในสภาขอถนนขอน้ำขอไฟหลายอย่างตนก็ดูให้ สั่งหน่วยงานไปดูให้ รวมถึงข้อเรียกร้องต่างๆทั้งในโซเชียล และในสื่อ บางทีก็สร้างความเข้าใจผิดกัน สังคมก็เกลียดกัน เราเกลียดกันไม่ได้อีกแล้ว นายกฯกล่างอีกว่า นอกจากนี้ เราต้องให้กำลังใจประเทศญี่ปุ่นด้วย ที่กำลังจะถูกพายุไต้ฝุ่นเข้าพื้นที่ ตนเตรียมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และจะส่งกำลังใจไปให้ด้วย เพราะถือว่าเราเป็นเพื่อนกันและจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันและในเดือนหน้า เราก็เตรียมที่จะเป็นประธานประชุมอาเซียน ขณะที่ปลายเดือนนี้ตนจะต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธี จากนั้นนายกฯและคณะ เดินทางไปยังวัดท่ากกแห่ ต.จะระแม เพื่อกราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดท่ากกแห่ พร้อมถวายของ และมอบของให้ผู้ประสบภัยจำนวน พร้อมทั้งเดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวว่า"ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยกัน ผมต้องการให้น้ำท่วมครั้งนี้ล้างใจให้ทุกคนสะอาดความบาดหมางจากนี้ไปจะไม่มีแล้วเกลียดกันไปก็ไม่ได้ประโยชน์" ต่อมานายกฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมนางใบ แสงพฤกษ์ อายุ 73 ปี ผู้ป่วยติดเตียง โดยนายกฯ ได้กล่าวให้กำลังใจ พร้อมมอบของใช้จำเป็นให้กับผู้ป่วย เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีร่วมกิจกรรมซ่อมบ้าน - คืนบ้านน่าอยู่โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอกตะปู ช่วยซ่อมแซมบันไดบ้าน มอบตู้ยาสามัญประจำบ้าน และแขวนป้ายบ้านเลขที่ พร้อมมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูครัวเรือน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร