“แอลพีเอ็น” ส่งแคมเปญ "ความพอดี ที่ดีกว่า" ตอกย้ำปรัชญา “ชุมชนน่าอยู่” พร้อมกางแผน6 เดือนหลัง ลุยเปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.6 หมื่นลบ. ดันเป้ายอดขาย-รายได้ตามเป้า นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) เปิดเผยว่า ตลอด 30 ปีของการดำเนินธุรกิจของ แอล.พี.เอ็น. ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นคำตอบให้คนอยากมีบ้านทุกคน ด้วยการพัฒนาโครงการหรือสร้างบ้านที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิต และคำนึงถึงความพอดี ความเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของลูกค้า รวมถึงการมีสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี ตอกย้ำปรัชญา “ชุมชนน่าอยู่” ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างบ้านที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัย ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวแคมเปญ “ความพอดี ที่ดีกว่า”  เพื่อสร้างแบรนด์ดิ้งครั้งแรก ในรอบ 10 ปี ผ่านภาพยนตร์โฆษณาเรื่องสั้น "Dream Home"สะท้อนความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ของแบรนด์แอล.พี.เอ็น. โดยมี "ชุมชนน่าอยู่" เป็นตัวขับเคลื่อน “เราเชื่อว่า “Dream Home” คือภาพยนตร์โฆษณา ที่ตั้งคำถามกับคนดูว่า ในชีวิตจริง เราต้องการ “บ้าน” แบบไหน ระหว่างบ้านที่ล้ำยุค ดีไซน์ล้ำสมัย ตรงตามค่านิยม “บ้านในฝัน” ที่อาจกลายเป็นฝันร้ายเมื่อเข้าไปอยู่ เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาจากการใช้ชีวิตจริง กับบ้านที่แม้ภายนอกอาจดูเรียบง่าย ไม่โดดเด่นแบบที่คนส่วนใหญ่ฝันถึง แต่กลับให้ความรู้สึกที่ดีกว่า เพราะออกแบบให้พอดีกับชีวิตจริง เพราะเราเชื่อว่า “บ้านในชีวิตจริงของคุณ..ต้องดีกว่าแค่บ้านในฝัน..”นายโอภาส กล่าว โอภาส ศรีพยัคฆ์  นายโอภาส กล่าวอีกว่า นอกจากการเดินหน้าตอกย้ำปรัชญา “ชุมชนน่าอยู่” ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “ความพอดี ที่ดีกว่า” แล้วสำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2562 ไปจนถึงไตรมาสแรกปี 2563 หรืออีก 6 เดือนหลังจากนี้ บริษัทมีแผนที่เปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่อง ทั้งอาคารชุดพักอาศัยและบ้านพักอาศัย จำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 15,000-16,000 ล้านบาท ประกอบไปด้ว คอนโดฯ จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,000ล้านบาท ได้แก่ 1.คอนโดฯ High Rise ย่านเตาปูน เปิดตัวภายในปีนี้ ขนาด 800 ยูนิต มูลค่า 1,900ล้านบาท 2. คอนโดฯ Low Rise แจ้งวัฒนะ ซอย 10 เปิดตัวปีนี้ ขนาด 476 ยูนิต มูลค่า 600 ล้านบาท 3.คอนโดฯ High Rise แจ้งวัฒนะ ซอย 17 เปิดตัวปี 2563 อาคารด้านหน้าจำนวน 719 ยูนิต มูลค่า 1,600ล้านบาท และอาคารด้านหลังจำนวน 788 ยูนิต มูลค่า 1,450 ล้านบาท 4.คอนโดฯ Low Rise ย่านถนนเอกชัย ใกล้ศูนย์การค้าสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 เปิดตัวปี 2563 จำนวน 2,293 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท 5.คอนโดฯ High Rise ลุมพินี มิกซ์ นราธิวาส-รัชดา เปิดตัวในปี 2563 มูลค่าประมาณ 3,000ล้านบาท 6. โครงการในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน ขณะที่โครงการแนวราบที่จะเปิดตัว มีทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,420 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการในย่านพหลโยธิน 54/1 ห่าง BTS สะพานใหม่ 3 กม. จำนวน 253 ยูนิต มูลค่าราว 880 ล้านบาท, 2. โครงการย่านลาดกระบัง ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 4 กม. จำนวน 400 ยูนิต มูลค่า 1,250 ล้านบาท, 3. โครงการ Baan 365 ย่านเมืองทองธานี จำนวน 182 ยูนิต มูลค่า 1,890ล้านบาท, 4. โครงการบ้านแฝด 2 ชั้นและทาวน์โฮม ย่านสุขุมวิท 113 รวม 133 ยูนิต มูลค่า 750 ล้านบาท และ 5. โครงการบ้านแฝด2 ชั้น ย่านท่าข้าม-พระราม 2 จำนวน 108 ยูนิต มูลค่า 650 ล้านบาท สำหรับในช่วงไตรมาส 4/2562 บริษัทจะมีโครงการใหม่ที่เริ่มทยอยโอน ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ มูลค่ารวม 8,5 00ล้านบาท ได้แก่ 1. ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร มูลค่า 2,000ล้านบาท, 2. ลุมพินี เพลส รัชดา-สาธุ มูลค่า 1,620ล้านบาท, 3. ลุมพินี ซีเล็คเต็ด สุทธิสาร-สะพานควาย มูลค่า 1,260 ล้านบาท, 4. ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2 มูลค่า 720 ล้านบาท, 5. ลุมพินี พาร์ค พหล 32 มูลค่า 1,860 ล้านบาท, 6.บ้านพักอาศัยภายใต้แบรนด์บ้านลุมพินี มูลค่า 530 ล้านบาท และ 7. Baan 365 มูลค่า 500 ล้านบาท ด้านเป้าหมายรายได้ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 11,000 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยช่วงไตรมาส4 นี้คาดว่าจะมีการทยอยโอนโครงการเข้ามาประมาณ 4,000ล้านบาท จากมูลค่ายอดขายรอโอน ที่มีอยู่ราว 8,000 ล้านบาท ส่วนเป้ายอดขายปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 8,000 ล้านบาท