“กกต.” ยกคำร้อง “พรรคเสรีรวมไทย-ปิยบุตร” ถูกกล่าวหา ใส่ร้ายด้วยความเท็จ-จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมพรรคอื่น เหตุโพสต์ข้อความวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมือง วันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.ที่ 130/2562 กรณีก่อนประกาศการเลือกตั้ง กกต. ได้รับคำร้องว่า พรรคเสรีรวมไทย และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เป็นผู้ถูกร้องที่ 1-2 ได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) กล่าวคือ ผู้ถูกร้องที่ 1-2 ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง โดยกรณีพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “คนไทยหัวใจเสรี” ลงเผยแพร่ข้อความว่า “การบริหารประเทศที่เต็มไปด้วยการผูกขาด กฎระเบียบที่กดหัวประชาชน มองประชาชนเป็นแหล่งหาเงินส่งให้รัฐ ไม่ให้ประชาชนเรียนรู้ ไม่ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง ปากก็อ้างว่าเศรษฐกิจพอเพียง ในเมื่อชาวนา พึ่งพาตัวเองได้ด้วยเมล็ดพันธุ์ที่เก็บไว้แล้ว ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว พวกเอ็งยังมีหน้ามาดึงเอาสิ่งที่ชาวนาทำกันมาไปเป็นของนายทุน เราต้องบอกคนเฒ่าคนแก่ว่า พวกเผด็จการ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคที่ส่งเสริมประยุทธ์ เป็นนายก กำลังจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันทั้งแผ่นดิน เพียงเพราะผลประโยชน์ของตัวเอง” และข้อความว่า “มันคืออะไรกัน แอดมินโกรธมาก #xxxx ขายข้าว ต้องผ่านรัฐ ขายเอง จับติดคุก คลอดแล้ว พ.ร.บ.ข้าว เก็บ 17% ชาวนาปวดใจ ปลูกข้าวได้แต่ห้ามขาย ฝืนโทษหนัก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท”นั้น กกต. เห็นว่า เนื้อหาของข้อความเป็นการหยิบยกข่าวสารที่ได้นำเสนอทางสื่อต่าง ๆ มาวิพากษ์วิจารณ์ และแสดงความเห็นทางการเมือง ข้อความที่เผยแพร่ดังกล่าวไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ส่วนกรณีนายปิย ได้ลงเผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กว่า “...คนอีสานถูกทำให้เชื่อว่าเป็นคนตลก เป็นแรงงาน ไม่มีความรู้ แต่แท้จริงแล้ว คนอีสาน คือ “เดินแดงกำแพงเหล็ก” เป็นดินแดนแห่งนักประชาธิปไตย นักต่อสู้ความอยุติธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้ ทำให้รัฐจากส่วนกลาง จับมือกับสื่อมวลชนบางกลุ่มผลิตสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้คนอีสาน เป็นคนตลก ไม่มีความรู้ นั่นก็เพราะพวกเขากลัวความเป็นนักต่อสู้ นักประชาธิปไตยแห่งแดนอีสาน ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะเข้ารัฐสภาเพื่อทวงคืนอำนาจให้กับคนอีสาน…”นั้น กกต. เห็นว่า ข้อความดังกล่าว มิได้ระบุถึงบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นการเฉพาะ และเนื้อหาของข้อความเป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ยังไม่ถึงขนาดเป็นการใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า พรรคเสรีรวมไทย และนายปิยบุตร กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่ง (5) ตามคำร้องแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง