อธิบดีกรมปศุสัตว์ สั่งด่านชายแดนทั่วประเทศเข้มงวดชะลอส่งออกโคเนื้อ-กระบือเพศเมีย เมื่อวันที่ 8 ต.ค. นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่สื่อได้นำเสนอข่าวมีประเด็นเกี่ยวกับมีพ่อค้า แม่ค้าจากต่างประเทศได้รับซื้อโคในตลาดนัดโค กระบือโดยรับซื้อเฉพาะเพศเมียเป็นส่วนใหญ่ และมีด่านกักกันสัตว์รู้เห็นการลักลอบ นั้น ทั้งนี้ จากการที่กรมปศุสัตว์ได้มีหนังสือ เลขที่ กษ ๐๖๐๔/๒๔๕๖ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๒ เรื่องขอให้ชะลอการพิจารณาอนุญาตนำโคเนื้อและกระบือเพศเมียที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ทั้งตั้งท้องและไม่ได้ตั้งท้อง ออกนอกราชอาณาจักร โดยให้กองสารวัตรและกักกัน ด่านกักกันสัตว์ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งด่านกักกันสัตว์ที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง อาทิ การลาดตระเวนตามแนวชายแดนทุกช่องทาง การสืบหาข่าวการลักลอบ ประกอบกับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ.2561 เป็นต้นมา กรมปศุสัตว์ได้มีมาตรการการคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคอหิวาห์แอฟริกาในสุกรจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดช่องทางชายแดนทุกช่องทาง อาทิเช่น จุดประเพณี จุดผ่อนปรน ช่องผ่านแดนถาวรตลอดแนวชายแดนที่ติดกับประเทศ สปป.ลาว และประเทศกัมพูชา เพื่อสกัดกั้นไม่ให้มีการลักลอบนำผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ที่ติดมากับสัมภาระผู้เดินทางผ่านแดนเข้ามายังประเทศไทย นอกจากนี้ ยังปฏิบัติภารกิจการตรวจสอบการลักลอบตามแนวชายแดนด้วย จากข้อมูลระบบสาระสนเทศกรมปศุสัตว์ พบว่า ข้อมูล 3 ปีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560-2562 มีปริมาณโคเนื้อและกระบือรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้น และเมื่อแจกแจงเพศโคเนื้อและกระบือ พบว่า ปริมาณโคเนื้อและกระบือรวมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งเพศผู้และเพศเมียมีปริมาณเพิ่มขึ้นเช่นกัน และในทางเดียวกันข้อมูลปริมาณโคเนื้อและกระบือทั้งเขต 3 และเขต 4 มีปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งให้ความหมายว่าไม่มีโคเนื้อและกระบือลักลอบออกจากราชอาณาจักร นอกจากนี้ การส่งออกโค-กระบือจะต้องผ่านระบบการตรวจสอบก่อนได้รับอนุญาตนำออกราชอาณาจักรโดยมีระบบอิเล็คทรอนิค(E-movement) ในการขอและอนุญาต ซึ่งระบบสามารถตรวจสอบที่มาและที่ไปของสัตว์ดังกล่าวได้ กรมปศุสัตว์ได้เน้นย้ำให้ด่านกักกันสัตว์เข้าตรวจสอบตลาดนัดโค-กระบือในพื้นที่รับผิดชอบ โดยโคและกระบือที่ออกจากตลาดนัดโค-กระบือต้องได้รับอนุญาตในการเคลื่อนย้าย (ร.4) ก่อนทุกตัว ให้ด่านกักกันสัตว์ต้นทางประสานปศุสัตว์อำเภอปลายตรวจสอบสัตว์ในพื้นที่ปลายทาง พร้อมกับให้เพิ่มมาตรการในการเข้มงวดป้องกันการลักลอบโดยการลาดตระเวนและหาข่าวในพื้นที่ชายแดน รวมทั้ง มีการแจ้งด่านกักกันสัตว์ที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนทั่วประเทศให้ประชาสัมพันธ์ในหน่วยงานชายแดนอีกด้วย