แกนนำ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร, นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย, นายวันมูหะมัดนอน์ มะทา หัวหน้าพรรรประชาชาติ, นายชัยเกษม นิติสิริ คณะกรรมการยุทธศาสตร์คณะกรรมการยุทธศาสตร์ประธานด้านกระบวนการยุติธรรม และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐพรรคเพื่อไทย, พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ, นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย, พลโทพงศกร รอดชมพู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, พลโทภราดร พัฒนฐาบุตร อดีตเลขาธิกาสภาความมั่นคงแห่งชาติ, และนายสมพงษ์ สระกวี ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4, พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ ผู้ชำนาญการ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ในความผิดฐานแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา นายสมพงษ์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ตาม ม.116 นำเสนอข้อมูลในลักษณะมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน กับบุคคลรวม 12 คน ที่ได้จัดเวที เสวนา “พลวัตแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่นับหนึ่งรัฐธรรมนูญใหม่” ที่บริเวณลานวัฒนธรรมจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา สำหรับสิ่งที่เราได้ทำการเสวนานั้นก็เป็นนโยบายของฝ่านค้านซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่สามารถกระทำได้ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ สิ่งที่เราปฏิบัตินั้นเรามีสิทธิ์ในฐานะนักการเมือง ดังนั้นการที่ กอ.รมน.ภาค4 มาแจ้งความร้องทุกข์กับพรรคฝ่ายค้าน เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เราจึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบ ว่า ทางกอ.รมน.ภาค4 ใส่ความโดยที่ไม่มีความผิดใด ๆ จึงมาร้องว่าสิ่งที่กอ.รมน.ภาค4 ทำนั้นไม่ถูกต้อง นายวันมูหะมัดนอน์ เปิดเผยว่า ในนามของพรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค ขอยืนยันว่าสิ่งที่ทางเราไปพบปะประชาชนตลอดเวลา รวมทั้งวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา กระทำภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ และ กฎหมายทุกประการ ไม่ได้มีการล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญ มีการแสดงความคิดเห็นโยสุจริต และต้องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการแก้ไข้รัฐธรรมนูญด้วย ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายของพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรค รวมทั้งรัฐบาลด้วย และเป็นนโยบายเร่งด้วยของรัฐบาลข้อที่ 12 ที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงในสภาด้วย ว่าจะให้มีการศึกษาเพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะฉะนั้นซึ่งที่เราทำก็อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและนโยบายของพรรคการเมือง ดังนั้นการที่กอ.รมน.ภาค4 มาตั้งข้อกล่าวหามาตรา 116 นั้น เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ ทั้งยังทำให้ นักวิชาการ และ ผู้ที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตนั้น อาจจะมีความผิด และหวาดกลัว มันเป็นการปิดปากประชาชน อย่างไรก็ตาม กอ.รมน.ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อยู่ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ด้านนายสงคราม เปิดเผยว่า ยืนยันว่า 7 พรรคฝ่ายค้านก็คงต้องเดินหน้าต่อไป และ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายทั้งภาคฝ่ายค้านและรัฐบาล เราพูดชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่าสำหรับ หมวด 1 กับ หมวด 2 เราไม่แตะ ซึ่งประกาศชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งเราอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่มีการสุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว นายนิคม เปิดเผยว่า ในส่วนของตัวเองได้รับความเสียหาย จะทำการแจ้งความกลับฐานดูหมิ่น การแจ้งความครั้งต้องการนั้นเพียงแค่ต้องการความได้เปรียบทางด้านการเมือง เพราะไม่ต้องการให้พรรคฝ่ายค้านมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การที่ กอ.รมน.ภาค4 แจ้งความนั้นถึงเป็นการแจ้งความเท็จ และตัวเองจะแจ้งความในนามส่วนตัวด้วย และจะไปร้องที่ ปปช และ อัยการสูงสุด การสู้ในครั้งนี้สู้เพื่อประชาชน เราจะให้กฎหมาย หรืออำนาจที่แฝงอยู่ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมากดหัวปรพชาชนไม่ได้ ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลอย่างยิ่งในการมาแจ้งความกับ สส. พรรคฝ่ายค้าน เหตุที่เราต้องไปรณรงค์เพราะเราต้องการให้ นักวิชาการ ประชาชน มีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกคนเสนอความคิดเห็นอย่างถูกต้อง จากที่ฟังการเสวนาอย่างขัดเจน ไม่มีการพูดว่าแก้มาตรา 1 มีเพียงอาจจะร่วมไปถึงการอภิปราย หรือการแสดงความคิดเห็นไปถึง มาตรา 1 การแจ้งความของกอ.รมน. เป็นการแจ้งแบบหว่านแห่ ทำไมไม่แจ้งทุกคนในงาน พลโทพงศกร เปิดเผยว่า ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐสภาผู้แทนราษฏร ว่าขณะนี้ได้ผ่านการเลือกตั้งมาแล้วควากลับเข้าสู่ระบบปกติ ดังนั้นจะต้องมาคุยในเรื่องของอำนาจกอ.รมน. ใหม่ ในคำสั่ง คสช. ที่ให้ทหารมีอำนาจเหนือขบวนการยุติธรรมทั้งหมด และ ป.วิอาญาที่ในการดำเนินการกล่าวโทษจะต้องมีการประมวลข้อกฎหมายให้ครอบถ้วนจึงจะฟ้องคดีได้ เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ทางคณะกรรมาธิการจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกัน และปรับขั้นตอนต่าง ๆในเป็นกระบวนการในระบอบประชาธิปไตยต่อไป ทั้งนี้ ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อ่านคำแถลงการ พร้อมมอบเอกสารคำแถลงการให้ โดยมีพันตำรวจเอก อิทธิกร จรัตนานนท์ ผู้กำกับกลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เป็นผู้รับเอกสาร ก่อนจะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน