วันที่ 6 ต.ค. 62 ที่กองปราบ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน พ.ต.ท.สมบัติ มีมงคล พ.ต.ท.วิศิษฐ์ พลบม่วง พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.วิศรุต บางน้ำเค็ม รอง สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป. ได้ร่วมกันจับกุมตัวน.ส.จิราพร จิตรฤทธิ์ หรือฟองเบียร์ อายุ 23 ปี ชาว ต.คู่น้อย อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 1029/62 ลง 15 ก.ค.62 ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ท่องที่ สน.ดุสิต ได้ที่ร้านอาหาร ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค.62 ได้มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองปราบเพื่อขอความช่วยเหลือ ว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ได้ถูกน.ส.จิราพร จิตรฤทธิ์ ซึ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่เดือน ในฐานะลูกค้าซึ่งตนมีอาชีพขับรถจยย.ส่งสินค้า โดยน.ส.จิราพรฯ ได้ขอยืมเลขบัญชีธนาคาร ของผู้เสียหายไปบอกว่าบัตรเอทีเอ็มของน.ส.จิราพรฯ หายไป จะมีญาติโอนเงินค่าห้องมาให้ หลังจากนั้นมีเงินโอนมาให้จำนวนหลายครั้งรวมเกือบ 5 หมื่นบาท ต่อมาทางน.ส.จิราพร ฯ ได้บอกให้ ผู้เสียหายไปที่ตู้เอทีเอ็มแล้วกดเงินสด จากนั้นให้ฝากเงินสดเข้าไปที่ตู้ โอนไปบัญชีของคนอื่นซึ่งตนไม่รู้จัก ทางผู้เสียหายสงสัยจึงได้บอกกับผู้ปกครอง ต่อมาได้ไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ
จากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.จิราพร ฯ พบว่ามีประวัติที่ กองปราบ ต้องการตัว (MOST WANTED) โดยมีพฤติกรรม หลอกซื้อขาย หรือมีการประมูล โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Iphone บน facebook ชื่อว่า “รักมาก มากรัก” โดยใช้รูปผู้หญิงคนอื่นซึ่งไม่ใช่ น.ส.จิราพรฯ โดยโพสขายราคาต่ำกว่าท้องตลาด 50% อย่างเช่น Iphone 7+ ราคา 13,500 บาท ราคาที่ น.ส.จิราพรฯ ขายอยู่ที่ 5,000 บาท – 10,000 บาท มีผู้เสียหายหลายราย หลงเชื่อโอนเงินจำนวนมาก ครั้งละ 5,000 – 10,000 บาท เมื่อผู้เสียหายรายใดหลงเชื่อ จะโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของน.ส.จิราพร ฯ หรือบัญชีอื่นๆ ที่น.ส.จิราพรฯ บอกให้ เหยื่อโอนเงิน แต่เมื่อเหยื่อไม่ได้รับสินค้าจึงรู้ว่าถูกหลอก หลังจากนั้นจะทำการบล็อก Facebook ของเหยื่อ เพื่อให้ไม่สามารถพิมพ์ข้อความทำให้ Facebook ของ น.ส.จิราพรฯ เสียหายหรือทำให้เหยื่อรายอื่นไม่หลงเชื่อได้ ซึ่งได้หลอกลวงเป็นเวลานาน และเคยถูกจับกุมไปเมื่อปลายปี 61 ประกันตัวออกมา ยังมีพฤติกรรมเดิมอยู่
นอกจากนี้ยังพบว่าน.ส.จิราพรฯ มีหมายจับของ สน.ดุสิต สน.บางขุนเทียน ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี และมีคดีเก่าที่ถูกจับกุมไปแล้วของ สภ.เมืองสุพรรณบุรี และ สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี ในข้อหา “ฉ้อโกง และข้อหาฉ้อโกงประชาชน” และมีผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกมากมาย หรือ ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความแล้วแต่แจ้งความกับคนที่ น.ส.จิราพรฯ ยืมเลขที่บัญชีธนาคารไป โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบเรื่อง
เจ้าหน้าที่สืบสวนกองปราบ ทำการสืบสวนทราบน.ส.จิราพรฯ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง หลบหนีอยู่ตลอดเวลา ต่อมาทราบว่าหลบมาเปิดร้านอาหารอยู่ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ต่อมาพบ น.ส.จิราพรฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนำส่ง สน.ดุสิต ดำเนินคดีภายหลังจับกุม
จากการสอบสวนน.ส.จิราพร ให้การรับสารภาพว่า ได้ยืมเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายจริงโดยรู้จักกันประมาณ 3 เดือน ซึ่งผู้เสียหายเป็นพนักงานส่งสินค้าติดต่อกันมา ต่อมาวันที่ 1 ต.ค.62 ได้ขอยืมเลขที่บัญชีของ ผู้เสียหายบอกว่าจะมีญาติโอนเงินมาให้ แต่เป็นเงินที่ได้จากการที่ตนเองไปหลอกลวงให้เหยื่อที่หลงเชื่อซื้อโทรศัพท์ราคาถูก ใน facebook “รักมาก มากรัก” และเมื่อมีเงินโอนเข้ามาจึงให้ผู้เสียหายไปถอนเงินมาให้กับตน ซึ่งการหลอกลวงผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
น.ส.จิราพร รับสารภาพอีกว่า ได้หลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือใน facebook “รักมาก มากรัก” มาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีเหยื่อโอนเข้ามาหลายราย โดยโพสขายใน facebook ราคาต่ำกว่าท้องตลาด 50% ยกตัวอย่างเช่น Iphone 7+ ราคา 13,500 บาท ราคาที่ น.ส.จิราพรฯ ขายอยู่ที่ 5,000 บาท – 10,000 บาท โดยรูปที่อยู่ใน facebook จะเป็นรูปที่คัดลอกมาจากทางเว็บไซต์ บางครั้งจะมีการ Live ขายโทรศัพท์มือถือ Iphone แต่ สินค้าที่โชว์จะเป็นแค่กล่องเปล่า เพื่อหลอกให้ดูน่าเชื่อถือว่า มีการขายโทรศัพท์จริง โดยแต่ละรายจะให้โอนมาบัญชีของตนแต่ ภายหลัง บัญชีของตนถูกอายัด และไม่สามารถไปเปิดบัญชีกับธนาคารไหนได้อีก จึงได้ออกอุบายขอยืมบัญชีธนาคารผู้อื่นหลายรายมาใช้ ส่วนตนติดการพนันออนไลน์ ได้เงินมาส่วนมากนำไปเล่นการพนันและใช้จ่ายส่วนตัว
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.จิราพรฯ ได้ยืมบัญชีของแฟนหนุ่มซึ่งคบกับมา 1 ปี บอกว่าแม่จะโอนเงินมาให้ เมื่อมีเงินโอนมาให้จะให้แฟนหนุ่มไปกดเงินมา ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์สอบถามน.ส.จิราพรฯ จึงได้พยายามคืนเงินกับผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาเพื่อให้ถอนแจ้งความ ต่อมายังพบว่ายังได้ขอยืมบัญชีธนาคารของลูกจ้างภายในร้านอาหารซึ่งตนได้เปิดร้าน ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 และยังตรวจสอบพบว่ายังขอยืมบัญชีของเพื่อนอีกหลายราย ที่ น.ส.จิราพาฯ รู้จัก Facebook หรือ ญาติพี่น้อง หรือ คนที่ น.ส.จิราพร ฯ เคยติดต่อ โดยมักจะหลอกว่าบัตรเอทีเอ็มหาย จะมีญาติ หรือ แม่โอนเงินมาให้ สุดท้ายมีหมายเรียกมายังคนที่ให้ น.ส.จิราพาฯ ยืม ภายหลังจับกุมยังมีเจ้าของบัญชีที่ น.ส.จิราพา ฯ ยืมเลขบัญชี ติดต่อเข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิใจอีกด้วย
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ขอฝากเตือนไปยังผู้ซื้อสินค้าออนไลน์โดยเฉพาะสินค้าที่ราคาถูกกว่าท้อง ตลาดจำนวนมาก ควรระมัดระวังการซื้อขายเพราะอาจจะถูกหลอกได้ จึงควรสั่งซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ก่อนจะซื้อควรจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด หรือ อย่าให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารอาจตกเป็นผู้ต้องหาไม่รู้ตัว ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับอีกจำนวน 3 หมาย ของศาลอาญา ที่ 1029/62 ข้อหา“ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” (สน.ดุสิต) 2.หมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 318/62ข้อหา “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกงประชาชน” (สน.บางขุนเทียน) 3.หมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 24/62 ในข้อหา“ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมประพฤติ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีต่อไป
เจ้าหน้าที่สืบสวนกองปราบ ทำการสืบสวนทราบน.ส.จิราพรฯ อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง หลบหนีอยู่ตลอดเวลา ต่อมาทราบว่าหลบมาเปิดร้านอาหารอยู่ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ต่อมาพบ น.ส.จิราพรฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนำส่ง สน.ดุสิต ดำเนินคดีภายหลังจับกุม
จากการสอบสวนน.ส.จิราพร ให้การรับสารภาพว่า ได้ยืมเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายจริงโดยรู้จักกันประมาณ 3 เดือน ซึ่งผู้เสียหายเป็นพนักงานส่งสินค้าติดต่อกันมา ต่อมาวันที่ 1 ต.ค.62 ได้ขอยืมเลขที่บัญชีของ ผู้เสียหายบอกว่าจะมีญาติโอนเงินมาให้ แต่เป็นเงินที่ได้จากการที่ตนเองไปหลอกลวงให้เหยื่อที่หลงเชื่อซื้อโทรศัพท์ราคาถูก ใน facebook “รักมาก มากรัก” และเมื่อมีเงินโอนเข้ามาจึงให้ผู้เสียหายไปถอนเงินมาให้กับตน ซึ่งการหลอกลวงผู้เสียหายไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
น.ส.จิราพร รับสารภาพอีกว่า ได้หลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือใน facebook “รักมาก มากรัก” มาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน มีเหยื่อโอนเข้ามาหลายราย โดยโพสขายใน facebook ราคาต่ำกว่าท้องตลาด 50% ยกตัวอย่างเช่น Iphone 7+ ราคา 13,500 บาท ราคาที่ น.ส.จิราพรฯ ขายอยู่ที่ 5,000 บาท – 10,000 บาท โดยรูปที่อยู่ใน facebook จะเป็นรูปที่คัดลอกมาจากทางเว็บไซต์ บางครั้งจะมีการ Live ขายโทรศัพท์มือถือ Iphone แต่ สินค้าที่โชว์จะเป็นแค่กล่องเปล่า เพื่อหลอกให้ดูน่าเชื่อถือว่า มีการขายโทรศัพท์จริง โดยแต่ละรายจะให้โอนมาบัญชีของตนแต่ ภายหลัง บัญชีของตนถูกอายัด และไม่สามารถไปเปิดบัญชีกับธนาคารไหนได้อีก จึงได้ออกอุบายขอยืมบัญชีธนาคารผู้อื่นหลายรายมาใช้ ส่วนตนติดการพนันออนไลน์ ได้เงินมาส่วนมากนำไปเล่นการพนันและใช้จ่ายส่วนตัว
จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.จิราพรฯ ได้ยืมบัญชีของแฟนหนุ่มซึ่งคบกับมา 1 ปี บอกว่าแม่จะโอนเงินมาให้ เมื่อมีเงินโอนมาให้จะให้แฟนหนุ่มไปกดเงินมา ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์สอบถามน.ส.จิราพรฯ จึงได้พยายามคืนเงินกับผู้เสียหายที่ติดต่อเข้ามาเพื่อให้ถอนแจ้งความ ต่อมายังพบว่ายังได้ขอยืมบัญชีธนาคารของลูกจ้างภายในร้านอาหารซึ่งตนได้เปิดร้าน ภายใน ซ.พหลโยธิน 52 และยังตรวจสอบพบว่ายังขอยืมบัญชีของเพื่อนอีกหลายราย ที่ น.ส.จิราพาฯ รู้จัก Facebook หรือ ญาติพี่น้อง หรือ คนที่ น.ส.จิราพร ฯ เคยติดต่อ โดยมักจะหลอกว่าบัตรเอทีเอ็มหาย จะมีญาติ หรือ แม่โอนเงินมาให้ สุดท้ายมีหมายเรียกมายังคนที่ให้ น.ส.จิราพาฯ ยืม ภายหลังจับกุมยังมีเจ้าของบัญชีที่ น.ส.จิราพา ฯ ยืมเลขบัญชี ติดต่อเข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิใจอีกด้วย
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ขอฝากเตือนไปยังผู้ซื้อสินค้าออนไลน์โดยเฉพาะสินค้าที่ราคาถูกกว่าท้อง ตลาดจำนวนมาก ควรระมัดระวังการซื้อขายเพราะอาจจะถูกหลอกได้ จึงควรสั่งซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ ก่อนจะซื้อควรจะทำการตรวจสอบอย่างละเอียด หรือ อย่าให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารอาจตกเป็นผู้ต้องหาไม่รู้ตัว ตรวจสอบพบว่ามีหมายจับอีกจำนวน 3 หมาย ของศาลอาญา ที่ 1029/62 ข้อหา“ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” (สน.ดุสิต) 2.หมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 318/62ข้อหา “โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และฉ้อโกงประชาชน” (สน.บางขุนเทียน) 3.หมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 24/62 ในข้อหา“ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จำเลยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคุมประพฤติ จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีต่อไป