เพิ่มการเข้าถึงง่าย เป็นแนวทางใหม่ ทั้งสามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ คาดน่าจะช่วยเพิ่มยอดบริจาคได้จาก 30% เป็น 70% ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้แม้เสียชีวิตไปแล้ว นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ คณะที่ปรึกษารมว.สาธารณสุขกล่าวว่า การปลูกถ่ายอวัยวะ เนื้อเยื่อ และดวงตา เป็นการรักษาที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ลดความพิการ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด แต่ยังมีปัญหาในการเข้าถึงการปลูกถ่าย ซึ่งมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะและดวงตาเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีผู้รอรับอวัยวะ 6,245 ราย และ  ผู้รอรับดวงตา 12,964 ราย ขณะที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะได้ปีละ 500 – 700 ราย ปลูกถ่ายกระจกตาได้เพียงปีละ 700 - 800 ราย และผู้ป่วยรอปลูกถ่ายไตไม่ต่ำกว่า 3 ปี ดังนั้น เพื่อให้มีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้น ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ได้ให้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการอวัยวะหลังเสียชีวิต ซึ่งคณะทำงานนี้ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี ผู้ชำนาญงานด้านกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อศึกษาถึงแนวทางใหม่ของการบริจาคอวัยวะ โดยในช่วงแรกจะใช้แนวทางให้ประชาชนต้องตัดสินใจว่าอยากจะให้อวัยวะหรือไม่ เมื่อไปทำธุรกรรมเอกสาร เช่น ต่อบัตรประชาชน ใบขับขี่ เป็นต้น และเมื่อมีความพร้อมมากขึ้นจะปรับระบบให้ทุกคน มีตัวเลือกตั้งต้นว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะ กรณีที่เลือกไม่อยากเป็น สามารถออกจากการเป็นผู้ให้อวัยวะได้ทุกเมื่อ “สำหรับตัวร่างกฎหมายดังกล่าวเบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งหากกฎหมายผ่านและมีการนำไปใช้คาดในระยะแรกจะมีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มร้อยละ 30 และเมื่อปรับเป็นการเปลี่ยนตัวเลือกตั้งต้นจะมีผู้บริจาคถึงร้อยละ 70 ซึ่งจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น” นพ.คณวัฒน์ กล่าว