นายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Pat Hemasuk ระบุว่า... ถ้าคน 10 ล้านคนโหลดแอพเป๋าตัง และมีค้างในสมาร์ทโฟน นี่คือการคิกออฟฟินเทคอะไรก็ได้เลยนะครับ ถ้ารัฐฉลาดพอที่จะต่อยอดสิ่งนี้ ถ้าบอกว่าคนจีนส่วนมากมี Alipay ที่ต้องใช้เวลาผลักดันมาหลายปีจนติดตลาด แต่เป๋าตังของเราใช้เวลาไม่ถึงเดือนก็ได้มา 10 ล้านคนแล้ว นั่นคืออะไรที่คนทำธุรกิจเป็นจะเห็นถึงศักยภาพในการทำธุรกิจต่อยอดกับ 10 ล้านคนนี้ อย่างบัตรร้าน 7-11 หรือบัตรแรบบิต ต้องใช้เวลาเท่าไร กีปีถึงจะได้ยอดคนถือบัตรในหลักแสนหรือหลักล้าน แต่เป๋าตังนั้นเพียง 10 วันได้คนมา 10 ล้านนี่คืออะไรที่รัฐบาลได้มาเหมือนส้มหล่นที่เอามาสร้าง National e-Payment หรืออีเพย์เมนท์แห่งชาติ ที่มีตลาดคนถือแอพใช้งานใหญ่ที่สุดในประเทศไทยได้เลผมบอกได้เลยนะว่าถ้าส้มหล่นที่ ธ.กรุงไทย ของรัฐบาล ธนาคารทุกแห่งพร้อมที่จะคุกเข่าเอาหัวโขกพื้นอยากได้กระเป๋าเงิน 10 ล้านคนที่ตรวจสอบประวัติแล้วกลุ่มนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้ไม่โง่หรอกครับ น่าจะมีคนคิดได้ถึงผลประโยชน์ต่อยอดที่มีมูลค่าหลายพันล้าน ย้ำอีกที่ หลายพันล้าน อย่างแอพเป๋าตังที่มีฐานคนใช้ 10 ล้านคนแบบสายฟ้าแลบในเวลาไม่ถึงเดือนแบบนี้ ผมเห็นความรวยระดับหมื่นล้านแสนล้านกับธุรกิจต่อยอดของแอพ 'เป๋าตัง" ตัวนี้อย่างชัดเจน จ้างผมไปนั่งเป็นบอร์ดซิ ผมจะสร้างเงินที่ก้อนใหญ่ที่สุดของประเทศให้ดู