คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์รูปภาพและ ข้อความผ่านในเฟซบุ๊ก Sudarat Keyuraphan ระบุว่า...
“แจกเงินคนจน แต่สุดท้ายวนไปอยู่กระเป๋าคนรวย” #ทุกข์พี่น้องอยู่ที่ไหนเพื่อไทยจะไปหาทางแก้ วันนี้หน่อยไปเดินที่เยาวราช เพื่อหาซื้ออาหารเจ และตั้งใจไปเดินต่อที่สำเพ็ง เพื่อหาซื้อผ้าเช็ดตัว ผ้าถุง สมุดวาดเขียน ของเล่นเด็กๆ เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหน่อยและ #ทีมเพื่อไทย ตั้งใจจะไปเยี่ยมพี่น้องอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่การมาเดินเยาวราช และสำเพ็งเที่ยวนี้ ทำให้หน่อยได้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความทุกข์ขึ้นในใจมากมาย เพราะตั้งแต่เดินลงรถมา ก็มีแม่ค้าที่ขายของอยู่ริมฟุตบาธวิ่งเข้ามากอดหน่อย แล้วร้องไห้หลายราย ทุกคนเข้ามาระบายความทุกข์ยากที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขา ทั้งการค้าขายที่ฝืดเคืองมาก แถมยังถูกกทม. ห้ามขายทั้งบนถนนเยาวราช แม้แต่ตามซอยต่างๆก็ยังไปตามจับ พ่อค้าแม่ขายหลายคน ตัดพ้อกับหน่อยว่า ใช้ชีวิตขายของอยู่ที่เยาวราช และสำเพ็งมากกว่า 30 ปีอยู่ๆวันนี้ก็มาห้ามไม่ให้เค้าขาย แล้วก็ไล่ดักจับเขาเหมือนพวกเขาเป็นโจร ทุกคนพูดกับหน่อยทั้งน้ำตาว่า เขาเป็นเพียงพ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆ ที่ประกอบอาชีพสุจริต ต้องการแค่ที่ทำมาหากิน #เขาไม่ใช่โจรผู้ร้าย ทุกคนต่างเข้ามาพูดคุยขอร้องให้หน่อยช่วย หน่อยจึงจะให้ส.ส.กทม. #เพื่อไทย ได้นำไปหาทางแก้ไขในสภาผู้แทนฯค่ะ ช่วงที่หน่อยเดินเข้าไปหาซื้อพวกผ้าเช็ดตัว ผ้าถุง มุ้ง ของเล่นเด็ก ตามร้านค้าต่างๆในสำเพ็ง ทุกร้านที่เข้าไปต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเศรษฐกิจแย่มาก ยอดขายของแต่ละร้านตกลงกว่า 70% บางร้านบอกว่าเปิดมากว่า 60 ปี ปีนี้ค้าขายแย่สุด และหลายร้าน ได้เล่าให้หน่อยฟังว่า มีปัญหาที่เข้ามาซ้ำเติม นอกจากการค้าขายที่ตกต่ำจากพิษเศรษฐกิจที่ไม่ดีในประเทศแล้ว ขณะนี้มีคู่แข่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า คือพวกนักธุรกิจจากต่างชาติที่เข้ามาเช่าร้านเปิดขายแข่งอย่างผิดกฎหมาย ทำให้สถานการณ์การค้าในย่านสำเพ็งยิ่งย่ำแย่มากขึ้น เร็วๆนี้กลุ่มผู้ค้าสำเพ็ง จะขอนัดหมายหน่อย ไปฟังปัญหาของพวกเขาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน หน่อยรับปากที่จะไปร่วมประชุมกับเขาในเร็วๆนี้ค่ะ อีกเรื่องที่หน่อยอยากเล่าทุกคนให้ฟัง คือตลอดระยะทางที่เดิน หน่อยถามเกือบทุกร้านว่ามีคนที่ได้เงินในโครงการ #ชิมช้อปใช้ มาซื้อของไหม ทุกร้านต่างบอกว่า #ไม่มีเลยสักราย ตกลงเงิน1,000บาท ในโครงการชิมช้อปใช้ ก็คงไหลไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัวรายใหญ่ไม่กี่รายเช่นเดิม เพราะส่วนใหญ่ก็จะไปใช้ในห้างใหญ่ทั้งนั้น การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ในขณะที่งบประมาณประเทศมีน้อย แต่ประชาชนยากจนมีจำนวนมาก รัฐบาลที่ชาญฉลาดจะต้องเลือกใช้จ่ายเงินงบประมาณ เพื่อไปสร้างให้เกิดรายได้ใหม่ หรือทรัพย์สินใหม่ให้แก่ประชาชนคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่การ #แจกเงินให้คนจนแต่สุดท้ายวนไปสู่กระเป๋าคนรวย อย่างที่นายกฯคนนี้ทำมาตลอดกว่าห้าปี ที่โดยต้องกู้เงินมากว่า 2.2 ล้านล้านบาท แต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เลย แถมยังทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นไปอีก โปรดอย่าให้คนจนถูกใช้เป็นเพียงช่องทางผ่านเงินไปยังเศรษฐีไม่กี่ตระกูล ที่เป็นผู้มีอุปการะคุณกับรัฐบาลเลย #หยุดอ้างคนจนมาอุ้มคนรวย