นายวิเจย์ กุมาร ซาราฟ ผู้ก่อตั้ง แบรนส์ ออน โรด เปิดเผยว่า ปัจจุบันในวงการธุรกิจต่าง ๆ ล้วนมีการแข่งขันกันสูงมาก ผู้ประกอบการแบรนด์สินค้าต่างมีความพยายามที่จะเอาชนะใจกลุ่มเป้าหมาย โดยเริ่มต้นจากการดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมายเป็นอันดับแรก ดังนั้นการใช้สื่อโฆษณาที่ถูกต้องย่อมเป็นสิ่งสำคัญของกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับทุกแบรนด์ ด้วยเหตุนี้ เราจึงริเริ่ม แบรนส์ ออน โรด ขึ้นมา เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญของ Out of Home Media ที่ไม่ใช่การบริการแบบดั้งเดิม แต่เป็น New Digital Out of Home Media ที่จะมาช่วยตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจแบรนด์สินค้าและบริการต่าง ๆ ให้เหนือชั้นจากคู่แข่ง รวมทั้งภาพรวมของอุตสาหกรรมสื่อในระบบขนส่งสาธารณะมีมูลค่าตลาดโดยรวมถึง 7.5 พันล้านบาท โดยแบรนส์ ออน โรด เป็นสื่อโฆษณารายแรกในประเทศไทยที่ใช้ประโยชน์จากป้ายดิจิทัลบนหลังคาของรถแท็กซี่ โดยเราจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสื่อสาร เพื่อทำการประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าของกลุ่มลูกค้าไปยังผู้บริโภค ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด โดยเราวางเป้าหมายเบื้องต้นไว้ที่รถแท็กซี่จำนวน 1,000 คัน ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ได้มีรายได้เสริมจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของเราอีกด้วย “แบรนส์ ออน โรส พร้อมให้บริการกลุ่มลูกค้าทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบใดและขนาดใดก็ตาม โดยแพคเกจและค่าบริการได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มีความเหมาะและครอบคลุมกับลูกค้า และแบรนด์ทุกรูปแบบทั้งแพคเกจรายวัน รายเดือน และรายปี นอกจากนี้ ยังมีแพคเกจที่สามารถกำหนดเองสำหรับลูกค้าได้ เช่น การรันหน้าจอเฉพาะวันเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เป็นต้น โดยได้เปิดให้ลูกค้าได้ทดลองใช้งานเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งมีลูกค้าแบรนด์ใหญ่ๆ ทั้งธุรกิจค้าปลีก ส่งอาหาร สายการบิน และอื่นๆ มาใช้บริการ” นายอังคุช บัดวา ร่วมก่อตั้ง แบรนส์ ออน โรด กล่าวเพิ่มเติมว่า แบรนส์ ออน โรด มุ่งเน้นที่จะเป็นสื่อดิจิทัล เอาท์ ออฟ โฮม มีเดีย (Digital Out of Home Media) ที่แข็งแกร่งและใหญ่ที่สุด โดยไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เราคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 3 ล้านบาท และจะมีการเติบโตขึ้นอีก 2.5 เท่าในปีถัดไป โดยเราได้มีการวางแผนเพื่อเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจ ด้วยการร่วมมือกับเอเจนซี่สื่อโฆษณาขนาดใหญ่ ผู้ซื้อสื่อ และทีมการตลาด สำหรับเพิ่มช่องทางการขายพื้นที่หน้าจอแบรนส์ ออน โรด โดยเพิ่มมูลค่าให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม รวมทั้งการเพิ่มจำนวนของกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มากขึ้น โดยขณะนี้ทีมเทคโนโลยีของเรากำลังอยู่ในช่วงทำการทดลองฟีเจอร์ใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริการใหม่ ๆ อาทิ วางแผนที่จะเปิดใช้งานระบบ AI ผ่านสมาร์ทโฟนเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าบนท้องถนน, เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Social Box ที่จะช่วยให้นักการตลาดสามารถมีส่วนร่วมในการรับรู้แบรนด์ผ่านทางหน้าจอดิจิทัลของเราเพื่อทราบการแสดงผลี่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น รวมทั้งได้วางแผนจัดสรรช่วงเวลาประมาณ 5-10% ของเวลาในการใช้สื่อโฆษณั้หมดเพื่อโปรโมทข่าวสารและสวัสดิการสาธารณะ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อตอบสนอความต้องการของกลุ่มลูกค้าเพื่อให้ง่าย และสะดวกต่อการใช้งานรวมทั้งได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากที่สุด