“นกแอร์” ร่วมกับ “โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล” พร้อมด้วย “กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” และ“มูลนิธิร่วมกตัญญู” ร่วมมือขนย้ายผู้ป่วยที่ประสบอุทกภัยในจังหวัดอุบลฯ ขึ้นเครื่องนกแอร์ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK เปิดเผยว่า การเกิดเหตุอุทกภัยจากพายุโพดุล และพายุคาจิกิ ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี และส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายอย่างมากในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งอาคาร บ้านเรือน พร้อมทั้งยังมีผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นนกแอร์จึงได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก ร่วมกันขนย้ายผู้ป่วยขึ้นเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ เพื่อมาทำการรักษาที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และต่อจากนี้ทางนกแอร์จะเดินหน้าเตรียมการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บจากเหตุอุทกภัย เพราะว่านกแอร์เป็นสายการบินของคนไทย และยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะเข้าช่วยเหลือคนไทยทุกเหตุการณ์ความเดือดร้อน เพราะว่า “ทุกสาธารณภัยที่คนไทยเดือดร้อน ไม่เคยไม่มีเรา” นายวุฒิภูมิ กล่าว โดยการเกิดอุทกภัยในครั้งนี้ ทางนกแอร์จะขอเริ่มที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นจังหวัดแรก เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในขณะนี้ ส่วนจังหวัดอื่นๆจะมีการพิจารณาในอันดับถัดไป และทางนกแอร์ยังได้มอบตั๋วเครื่องบินจำนวน 60 เที่ยวบิน ให้กับคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ และทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อเป็นการลดเวลา และความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ทำให้สามารถลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างทันที ด้านนายแพทย์พณะ จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก กล่าวอีกว่า โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ยินดีเป็นอย่างยิ่งในการให้ความร่วมมือครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลไม่ว่าจะเป็นทีมผู้บริหาร ทีมแพทย์เฉพาะทาง และพยาบาล ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวไทยด้วยกัน ทางเราจะมีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ในการช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น โรคฉุกเฉิน อุบัติภัยหมู่ และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมและหลังน้ำลด ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง รวมถึงทีมแพทย์ และพยาบาลสหสาขาวิชา พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ จะทำการช่วยเหลือทันทีเมื่อผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บถูกขนย้ายมายังโรงพยาบาล โดยเครื่องบินของสายการบินนกแอร์ และนอกจากนี้ เรายังเห็นถึงความสำคัญของภาวะโรคภัยที่ยังเกิดขึ้นได้แม้ในช่วงที่น้ำเริ่มลดแล้ว โดยจะมีการเตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ร่วมกับนกแอร์ จะนำทีมแพทย์ พยาบาลและยาของโรงพยาบาลจะลงพื้นที่ไปช่วยดูแลตรวจรักษาผู้ประสบภัย และขอร่วมเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยให้ก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างปลอดภัย พร้อมกันนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเสริมว่า การร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นทั้งจากภาครัฐ และเอกชน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประสบภัยอุทกภัย โดยทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะให้ความร่วมมือในทำหน้าที่คัดแยกผู้ป่วยที่เข้าข่ายการรักษาอย่างเร่งด่วน สำหรับขั้นตอนต่อไปทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะต้องประสานกับทางสายการบินนกแอร์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยสามารถทำการเดินทางโดยอากาศยานได้ตามมาตรฐานการบิน เพื่อความปลอดภัยตัวผู้ป่วย และผู้โดยสารท่านอื่นที่ร่วมบินในเที่ยวนั้นโดยจะเห็นได้ว่าการขนย้ายผู้ป่วยในครั้งนี้มีมาตรฐานความปลอดภัยอยู่ในระดับที่สูงมาก เพื่อเป็นการคลายความกังวลของผู้โดยสารที่ร่วมบินในเที่ยวบินนั้น และยังทำให้เกิดการรักษาผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน และลดจำนวนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ ขณะเดียวกันนายอธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวเสริมอีกว่า ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูจะขอเข้าช่วยเหลือ และร่วมด้วยในการขนย้ายผู้ป่วยในครั้งนี้อีกแรง ซึ่งหากทางมูลนิธิร่วมกตัญญูพบเห็นผู้ป่วยที่เข้าข่ายการรักษาอย่างเร่งด่วน จะรีบประสานงานกับเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ที่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขนย้ายผู้ป่วยขึ้นมารักษาอย่างทันที โดยนางสาวอัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ อีกหนึ่งตัวแทนเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า มูลนิธิร่วมกตัญญูได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประส บเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง และพบว่ามีผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการร่วมมือเพื่อนำผู้ป่วยขึ้นมารักษาในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันช่วยพี่น้องชาวอุบลราชธานีที่ประสบอุทกภัย