“เฉลิมชัย” มั่นใจเอาอยู่ คุมโรคอหิวาต์สุกร เร่งชงงบกลางซื้อรถทำลายสุกร 2 คัน 60 ล้าน สกัดโรคเร็วพื้นที่เสี่ยงแนวชายแดน ไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา ตั้งเขตกันชน ไบโอเซฟตี้โซน ยกระดับฟาร์มเลี้ยงหมูรายย่อย ของบ คชก.ปล่อยกู้ 66 ล้านบาท ทำคอกมาตรฐานปลอดภัย เมื่อวันที่ 25 ก.ย. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการกรมปศุสัตว์ ให้ประกาศเขตคุมโรคอหิวาต์สุกรในพื้นที่เสี่ยงแนวชายแดนไทย-เมียนมา ตนมั่นใจว่าคุมอยู่ เอาอย่างนี้เลยไม่ต้องถามว่าจะเล็ดรอดหรือไม่ แต่ว่าต้องใช้ความร่วมมือทุกภาคส่วนโดยรัฐเป็นหลักร่วมกับภาคเอกชน ต้องช่วยป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา เพราะถ้าปล่อยให้มีคนแก่ตัว เห็นแก่เล็กแก่น้อย ถ้าคุมไม่อยู่อย่างครบวงจรจะโดนทั้งหมด ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ขณะนี้ภาครัฐประกาศห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ หากเคลื่อนย้ายต้องแจ้งให้ตรวจสอบ100% ซึ่งพบการทำผิดกฎหมายจะปรับรุนแรงขึ้นกว่าปกติ “สั่งการให้คุมเข้มการเคลื่อนย้ายสุกรทั่วประเทศ ซึ่งจะต้องขอใบอนุญาตเคลื่อนย้ายจากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่ทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะมีโทษตามพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรค ผมได้ประสานฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ป้องกันการลักลอบเพราะแนวชายแดนยาวหลายร้อยกิโลเมตร ทุกฝ่ายร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ ร่วมกับกรมปศุสัตว์ตั้งด่านเข้มงวด และผมมีคำสั่งเป็นนโยบายต้องเอาให้อยู่ ถ้าเคลื่อนย้ายต้องแจ้ง”รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าว มาตรการเฝ้าระวังทุกพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา ยกระดับเป็นเขตควบคุมโรค การเคลื่อนย้ายต้องแจ้งทั้งหมด ทั้งแนวแม่น้ำ โดยที่พบโรควันนี้ จากการตั้งด่านตรวจค้นผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาจากต่างประเทศ นำส่งตรวจห้องแล็ปพบเชื้อโรคอหิวาต์สุกร แนวชายแดนที่เข้ามีการตรวจพบหลายจุด จึงรู้ว่าพื้นที่ชายแดนประเทศเมียนมาระบาดแล้วหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามต้องทำความเข้าใจโรคนี้ไม่ติดต่อสู่คน แต่หากมีอัตราความเสี่ยงในรัศมีคุมโรคจุดเสี่ยงติดแนวชายแดน ในรัศมี 1 กม. ต้องทำลายสุกร ขณะนี้ได้ทำลายสุกรแล้ว 6-7 พันตัว ไปเมื่อเดือนก่อน “ที่ผ่านมา ดำเนินการขอความร่วมมือกับภาคเอกชน จ่ายชดเชยให้กับผู้เลี้ยงสุกรที่สมัครใจทำลาย ในส่วนกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอนายกรัฐมนตรี ไปแล้วที่จะใช้งบกลางเพื่อมาจัดซื้อรถทำลายสุกรเคลื่อนที่ คันละ 30 ล้านบาท จำนวน 2 คัน ไว้ที่ภาคอีสาน1คัน ภาคเหนือ1คัน โดยสำนักงบประมาณ ให้ใช้งบปี 63 ซี่งกว่าจะใช้งบได้เดือนก.พ. จึงจะหารือกับนายกรัฐมนตรี และจะถามสำนักงบฯอีกครั้งเพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน เพื่อมีเครื่องมือมาทำลายสัตว์ในรัศมีคุมโรคได้รวดเร็วขึ้น และสามารถเคลื่อนที่ได้ นอกจากนี้ของบ คชก.66 ล้านบาท มาทำโครงการไบโอเซฟตี้โซน หรือแนวกันชน เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่เสี่ยงแนวชายแดน กู้ไปสร้างทำคอกมาตรฐานเลี้ยงสุกร”นายเฉลิมชัย กล่าว