หลังสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและผู้ประกอบการยื่นฟ้องศาลปกครองเพราะเป็นการผลักภาระการอุดหนุนค่าไฟฟ้าฟรีทุกครัวเรือนไปให้ผู้ใช้ไฟฟ้าขนาดกลางและขนาดใหญ่แทนถือว่าไม่เป็นธรรม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าวันนี้ (28 ก.พ.60) เวลา 11.30 น. ศาลปกครองกลางได้นั่งอ่านคำพิพากษาคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ฐานกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกระทำละเมิดอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย กรณีที่ผู้ถูกฟ้องคดีเอาใจรัฐบาลโดยการยกเว้นค่าไฟฟ้าให้ประชาชนฟรี 90 หน่วยต่อเดือน และ 50 หน่วยต่อเดือนตั้งแต่ ปี 2554 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการผลักภาระในด้านการอุดหนุนค่าไฟฟ้าฟรีของผู้ใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนซึ่งติดตั้งมารตวัดกระแสไฟฟ้าขนาด 5 (15) แอมแปร์ และใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยต่อเดือนในอดีตหรือ 50 หน่วยต่อเดือน ในปัจจุบัน ไปให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร เพราะไม่มีบทกฎหมายใดที่บัญญัติภาระหน้าที่ให้ผู้ใช้พลังงานต้องอุดหนุนแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ด้อยโอกาส และว่าการรับภาระแทนผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีเป็นหน้าที่โดยตรงของ กพช. และคณะรัฐมนตรีหาใช่เป็นการผลักภาระไปให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดกลาง กิจการขนาดใหญ่ กิจการเฉพาะอย่าง และองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรได้ ศาลปกครองกลางจึงมีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ 369/2560 พิพากษาเพิกถอนมติของ กพช. และ กกพ. ดังกล่าวโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คดีถึงที่สุดเป็นค้นไป ทั้งนี้คดีนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนและผู้ประกอบการ ได้ยื่นฟ้อง กกพ., กพช., ครม., กฟภ. และ กฟน. มาตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2555 หลังรัฐบาลพยายามหาเสียงกับชาวบ้านทั่วประเทศโดยลดค่าไฟฟ้าให้ทุกครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยและต่อมาลดเหลือ 50 หน่วยตั้งแต่ปี 2554 มาจนถึงปัจจุบัน แต่ผลักภาระค่าไฟฟ้าดังกล่าวไปให้ทุกครัวเรือน สถานประกอบการที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 90 และ 50 หน่วย หลัง กพช.มีมติเมื่อ 23 ก.พ.2554 ครม.มีมติ 1 มีนาคม 2554 นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด