จากกรณีพริตตี้สาว “ลัลลาเบล” เสียชีวิตอย่างเป็นที่คาใจของใครต่อใคร นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ได้โพสต์ผ่านเพจ “หมอมนูญ ลี FC” ระบุ “การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากๆในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเพิ่มสูงขึ้นเร็วมาก อาจสูงถึง 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เมื่อขึ้นสูงถึงระดับนี้แอลกอฮอล์จะออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง และศูนย์ควบคุมการหายใจ ทำให้สลบ การหายใจช้าลง ในที่สุดหยุดหายใจ เสียชีวิตได้ ในประเทศสหรัฐอเมริกามีคนเสียชีวิตจากแอลกอฮอล์เป็นพิษเฉียบพลัน (acute alcohol intoxication) ปีละประมาณ 2,200 คน สมัยที่ผมทำงานในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว จำได้ว่าดูแลเด็กวัยรุ่นชายชาวอเมริกันที่ห้องฉุกเฉิน รถพยาบาลนำมาส่งเพราะหมดสติ หลังแข่งกับเพื่อนใครจะดื่มวิสกี้ขวดใหญ่หมดขวดก่อนกัน เด็กวัยรุ่นคนนี้ตัวใหญ่ปกติแข็งแรงมาก ดื่มเหล้ากรอกปากตัวเองเหมือนดื่มน้ำ ดื่มเหล้าหมดขวดภายในไม่กี่นาที หลังจากนั้นสลบ หายใจช้า ตัวเริ่มเขียว เพื่อนเรียกรถพยาบาล ระหว่างอยู่ในรถพยาบาลต้องใส่ท่อหายใจ และใส่เครื่องช่วยหายใจ มาถึงห้องฉุกเฉิน หมดสติ เจาะระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 400 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ รับเข้าห้องไอซียู ให้การรักษาแบบประคับประคอง ให้น้ำเกลือ ร่างกายกำจัดแอลกอฮอล์ได้เอง วันรุ่งขึ้น ตื่นดี สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจ หายใจเองได้ ถ้าเห็นใครดื่มเหล้ามากแล้วสลบหมดสติ ต้องตามรถพยาบาล อย่าปล่อยให้เขาหลับต่อไป คิดเอาเองว่าประเดี๋ยวจะตื่นเองหลังสร่างเมา คนนั้นอาจไม่ตื่นก็ได้ เหมือนพริตตี้สาวลันลาเบลถูกอุ้มมานอนบนโซฟาล็อบบี้ของคอนโด ต่อมาเสียชีวิต วัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของลันลาเบลสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์”