นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) เปิดเผยว่า N Health ผู้ให้บริการด้านการสนับสนุนทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ให้กับโรงพยาบาลชั้นนำ ครอบคลุมการให้บริการมากกว่า 50 สาขา ทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ เปิดศูนย์บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์สาขาจังหวัดระยองเพื่อรองรับกับการขยายตัวของโรงพยาบาลต่างๆตามโครงการสำคัญอย่างเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ที่ภาครัฐมุ่งหวังให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งลงทุนหลักของประเทศ ซึ่งมีความพร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม และ นิคมอุตสาหกรรม ทั้งนี้ N Health สาขาระยอง พร้อมให้บริการสนับสนุนทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดระยองและพื้นที่ใกล้เคียงจะให้บริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ อย่างเช่น การตรวจด้านเวชะศาสตร์ชะลอวัย การตรวจสารพิษและโลหะหนักสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีชนิดต่างๆ บริการตรวจสุขภาพพื้นฐาน รวมถึงการตรวจพันธุกรรมที่ตอบสนองตามไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองเทรนด์ดูแลสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะแนวคิดการตรวจสุขภาพเริ่มเปลี่ยนจากเดิมที่ต้องการค้นหาโรค มาเป็นการตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันโรคและเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง N Health ได้เข้ามาตั้งศูนย์บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ที่จังหวัดระยอง จะช่วยสนับสนุนการด้านการสาธารณสุขรวมไปถึงการบริการทางการแพทย์แบบครบวงจร โดย N Health พร้อมจะให้บริการแก่ชาวระยองและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเต็มรูปแบบ โดยมองว่า จังหวัดระยองมีการพัฒนาอย่างยิ่งในด้านต่างๆ รวมถึงวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่นี้ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจของจังหวัด “ปัจจุบันธุรกิจประเภทเฮลท์แคร์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากผู้คนให้ความใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้นและประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะที่นโยบายภาครัฐก็มีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (เมดิคัล ฮับ) การสานต่อนโยบาย EEC จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพในเชิงการแข่งขัน ผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยได้เติบโตอย่างยั่งยืนและยาวนาน” ประธานคณะผู้บริหารN Health กล่าว ทางด้านนพ. ชัยวัฒน์ จัตตุพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการที่จะช่วยกันดำเนินการ โดยภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน ส่วนภาครัฐก็ได้ประโยชน์ตรงที่ทำให้เราสามารถมีศักยภาพดูแลสุขภาพประชาชนได้มากขึ้น เพราะในส่วนของราชการเราไม่ได้กำหนดว่าทุกโรงพยาบาลจะต้องมีแล็บ(Lab)ตรวจสอบได้ครบทุกอย่าง เนื่องจากถ้าทำเช่นนั้นต้องมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ถ้ารัฐจะไปลงทุนทุกอย่างคงไม่ได้ เพราะเราไม่มีงบประมาณ อย่างไรก็ตามทุกโรงพยาบาลไม่จำเป็นต้องมาใช้บริการที่แล็บนี้ เพราะไม่ได้เป็นข้อกำหนดที่ชัดเจนใดๆ เป็นเพียงส่วนที่ช่วยเรื่องการเสริมสร้างสุขภาพประชาชนเท่านั้น ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจนั้นขึ้นกับสิทธิของผู้ป่วย เช่น หากใช้สิทธิบัตรทอง ภาครัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ทั้งนี้มีบางแล็บที่ไม่ครอบคลุมด้วยเช่นกัน หรือหากเป็นสิทธิราชการ (ประกันสังคม)ก็สามารถทำเรื่องเบิกตามสิทธิได้ แต่ถ้าไม่มีสิทธิใดๆเลยผู้ป่วยก็ต้องรับผิดชอบเอง สำหรับN Health ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน N Health ประกอบด้วย บริษัท เนชั่นแนล เฮล์ทแคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็น เฮลท์ พยาธิวิทยา จำกัด N Health เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการด้านการสนับสนุนบริการทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ บริการด้านวิศวกรรมทางการแพทย์ บริการงานปราศเชื้อแบบครบวงจร บริการบริหารและบริการผ้าแบบครบวงจร บริการบริหารศูนย์ไตเทียม บริการบริหารจัดการการแพทย์ทางไกล ตัวแทนจัดจำหน่าย อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ บริการการจัดซื้อจัดหาที่ครบวงจร บริการบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ บริการโลจิสติกส์ในธุรกิจสุขภาพ ครอบคลุมการให้บริการด้วยสาขากว่า 50 สาขาในประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น กัมพูชา พม่า และสิงคโปร์ ด้วยเทคโนโลยีและระบบการทำงานแบบมาตรฐานสากล ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ N Health ได้ที่ http://www.nhealth-asia.com