ก.แรงงาน สุดเจ๋ง สร้างผลงานไม่หยุด คว้าอีก 1 รางวัลดีเด่น ของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จากผลงานการบริหารกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานดีเด่น เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 62 ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-7 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เป็นตัวแทนเข้ารับโล่รางวัลจากผลงานการบริหารกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานดีเด่นและมีประสิทธิภาพ จากนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกรมบัญชีกลางจัดพิธีมอบรางวัลทุนหมุนเวียนดีเด่น ประจำปี 2562 ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และให้ความสำคัญแก่ผู้ปฏิบัติงานกองทุนหมุนเวียนต่างๆ ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตามนโยบายรัฐบาล โดยอธิบดี กพร. ผู้บริหารและคณะเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้รับฟังปาฐกถา “ทุนหมุนเวียน ขับเคลื่อนนโยบายรัฐ พัฒนาประเทศ” และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานของทุนหมุนเวียนของหน่วยงานต่างๆ ที่ร่วมจัดนิทรรศการในครั้งนี้ด้วย โดยนายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล กล่าวว่า รู้สึกดีใจและปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้รับรางวัลผลการดำเนินงานดีเด่น จากผลการบริหารกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ในปี 2562 หลังจากคว้า 3 รางวัลเลิศรัฐมาก่อนหน้านี้แล้ว และเคยได้รับรางวัลกองทุนหมุนเวียนครั้งแรก ด้านการพัฒนาดีเด่น เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา กพร. ได้ดำเนินการบริหารกองทุน ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และแนวคิด Workforce Transformation ของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งเน้นเตรียมความพร้อมกำลังแรงงาน เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ช่วยปรับปรุงและพัฒนาด้านแรงงานให้สอดคล้องกับบริบทความท้าทายทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในศตวรรษที่ 21 อธิบดี กพร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา กองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ดำเนินงานตามนโยบาย แผนงาน และโครงการที่กำหนดไว้ อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายตามภารกิจเป็นอย่างดี โดยในปี 2562 คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน อนุมัติเงินกู้ยืมกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ให้สถานประกอบกิจการกู้ยืมจำนวน 88 แห่ง เป็นเงิน 62,186,954 บาท เพื่อใช้ในการดำเนินการฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ ยังอนุมัติเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561-2562 เป็นเงินทั้งสิ้น 14,655,078.40 บาท จากเงินงบประมาณที่จัดสรร 19 ล้านบาท ให้แก่ผู้ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานตามมาตรา 24 หรือศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถตามมาตรา 26/4(2) ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ซึ่งส่งเงินค่าทดสอบหรือค่าธรรมเนียมเข้ากองทุน และศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถกลาง รวมทั้งสิ้น 795 แห่ง มีบุคลากรที่ได้รับประโยชน์จากเงินอุดหนุน 83,129 คน “รางวัลที่ได้รับจะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมแรงร่วมใจทุ่มเทความรู้ความสามารถตลอดทั้งกำลังกายกำลังใจ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศให้มีศักยภาพสูงขึ้น ได้มาตรฐาน สามารถแข่งขันกับนานาประเทศ และเสริมศักยภาพให้สถานประกอบกิจการดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง เป็นรางวัลที่คุ้มค่า" นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย