"วิษณุ"ไม่ตอบ "ธนาธร"ให้พรรคอนค.กู้ 191 ล้านทำได้หรือไม่ ระบุอาจจะไม่ผิดก็ได้ ชี้การยุบพรรคเป็นผลร้าย ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 191 ล้านบาทเศษ ว่า ตนไม่ตอบว่าทำได้หรือไม่ เพราะขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบอยู่ หากพูดอะไรจะกลายเป็นการชี้นำ โดย กกต.ต้องสืบพยานให้รู้แน่ว่ามันคืออะไร ซึ่งไม่ใช่การตัดสินโดยใช้ดุลยพินิจ เพราะหากเป็นดุลยพินิจจะชี้ซ้ายหรือขวาก็ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง เรื่องนี้มันอาจจะไม่ผิดก็ได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหม่ เพราะกฎหมายเดิมเรื่องการเงินไม่ได้รัดกุมเท่ากับปัจจุบัน และไม่ทราบว่าการกู้เงินจะถือเป็นรายได้หรือไม่ กกต.เขาคงดูประเด็นนี้อยู่ และทางกฎหมายกับทางบัญชีกำหนดเรื่องเงินกู้ต่างกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องที่พรรคการเมืองจะไปกู้เงินจะกลายเป็นบรรทัดฐานในอนาคตหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ กกต.กำลังวินิจฉัยอยู่ หากผลออกมาแล้วไม่เชื่อ ก็ยังต้องไปศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มาตรฐานจะอยู่ตรงนั้น อย่าเพิ่งมาหามาตรฐานจากตน เมื่อถามว่า หากผลวินิจฉัยเป็นลบต่อพรรคอนาคตใหม่ จะเกิดอะไรขึ้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่รู้ หากตนตอบจะกลายเป็นการชี้นำว่าผลเป็นลบ เรื่องนี้ไม่ว่าการวินิจฉัยจะออกมาอย่างไรจะถือว่าเป็นประโยชน์ เพราะมาตรฐานมันจะเกิดขึ้นมา เมื่อถามย้ำว่า หากผลเป็นลบขึ้นมา จะต้องมีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ใหม่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า หากเหตุเกิดภายใน 1 ปีหลังเลือกตั้งต้องคำนวณใหม่ โดยจะเอาคะแนนมาคิด ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ทั้งหมด อาจจะกระทบบ้าง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องของการทุจริต เช่น ส.ส.ลาออก ที่เขต 5 จ.นครปฐม หรือ ส.ส.ขาดคุณสมบัติ เพราะต้องคำพิพากษา ไม่ต้องคำนวณใหม่ เมื่อถามว่า เรื่องรายได้พรรคการเมือง ที่กำหนดไว้ในมาตรา 62 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ไม่ได้ระบุเรื่องกู้ยืมเอาไว้ ในทางกฎหมายแล้ว จะต้องยกประโยชน์ให้จำเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันได้ทุกทาง ถ้ากฎหมายไม่เขียนไว้แล้วเป็นผลร้ายก็ต้องยกประโยชน์ แต่ถ้าไม่เขียนและเทียบเคียงได้ก็ต้องวินิจฉัย เมื่อถามว่า การยุบพรรคถือเป็นผลร้ายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นผลร้าย ทำไมจะไม่เป็น ร้ายยิ่งกว่าอะไร