นางอนงค์ ล่อใจ กรรมการบริหาร พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติและนายมนตรี บุญจรัส รองโฆษกพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายประวิทย์ สาเมาะ กรรมการบริหารพรรคประชาชาติ เข้าร่วม "เวทีสัญจรพรรคการเมืองฟังเสียงคนจน ครั้งที่ 3 ตอน การแย่งชิงทรัพยากรจากคนจน กรณีโครงการก่อสร้างเขื่อนท่าแซะ "เพื่อสำรวจพื้นที่และรับข้อเสนอแนะของชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนท่าแซะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ 2562 ณ ศูนย์กลุ่มอนุรักษ์ต้นน้ำท่าแซะ บ้านร้านตัดผม หมู่ที่ 4 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพรโดยมีนาย ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ นาย สมชาย ฝั่งชลจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ นาย สมยศ หนูหนอง หัวหน้าสาขาพรรคชาติไทยพัฒนา จังหวัดนครศรีธรรมราชและสมัชชาคนจนเข้าร่วมวงเสวนาในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ พรรคประชาชาติได้ขอให้พี่น้องประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน รวม 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านห้วยทรายขาว หมู่ที่ 1 บ้านห้วยใหญ่ หมู่ที่ 2 บ้านร้านตัดผม หมู่ที่ 4 และบ้านดวงดี หรือ บ้านหนองหอยขม หมู่ที่ 7 รวบรวมเอกสาร รวมถึง สำรวจข้อมูลทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจน จัดทำแผนที่ทำมือให้ทันสมัย เพื่อจะได้ใช้ประกอบ หรือ อ้างอิงและดำเนินการต่อไป
อนึ่ง พรรคประชาชาติยังได้เชิญชวนให้พรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจน ชาติไทยพัฒนา พร้อมใจกันสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จำนวน 3,000 ครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนและในเบื้องต้นพรรคประชาชาติจะนำตัวแทนของพี่น้องประชาชน จำนวน 15 คนไปยื่นข้อเสนอ รวม 2 ข้อ ได้แก่ ข้อที่ 1 ขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนท่าแซะ ตำบล สองพี่น้อง อำเภอ ท่าแซะ จังหวัดชุมพรและข้อที่ 2 ขอให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการจัดการน้ำทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่การสร้างเขื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองชุมพรต่อคณะกรรมาธิการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสัปดาห์แรกของการประชุมสมัยสามัญที่ 2 หรือระหว่างวันที่ 4-8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ รัฐสภา
"นอกจากนี้ พรรคประชาชาติ จะสำรวจและประมวลข้อเท็จจรืงเกี่ยวกับคนไทยพลัดถิ่น ตลอดจน
จะประสานกับจังหวัดชุมพร เพื่อขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการขอสัญชาติไทยของคนไทยไร้สัญชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ดังกล่าวมาหลายชั่วอายุคน พร้อมทั้ง จะรวบรวมคำขอสัญชาติไทยของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในตำบลสองพี่น้องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ในโอกาสเดียวกัน ทั้งนี้ เพราะ ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชน ว่า ได้ส่งคำขอและเอกสารประกอบ ตลอดจน หลักฐานต่างๆ ให้กับนายอำเภอท่าแซะ แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด" นาง อนงค์ ล่อใจ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ พรรคประชาชาติได้ขอให้พี่น้องประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน รวม 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านห้วยทรายขาว หมู่ที่ 1 บ้านห้วยใหญ่ หมู่ที่ 2 บ้านร้านตัดผม หมู่ที่ 4 และบ้านดวงดี หรือ บ้านหนองหอยขม หมู่ที่ 7 รวบรวมเอกสาร รวมถึง สำรวจข้อมูลทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ตลอดจน จัดทำแผนที่ทำมือให้ทันสมัย เพื่อจะได้ใช้ประกอบ หรือ อ้างอิงและดำเนินการต่อไป
อนึ่ง พรรคประชาชาติยังได้เชิญชวนให้พรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดจน ชาติไทยพัฒนา พร้อมใจกันสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จำนวน 3,000 ครัวเรือนที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนและในเบื้องต้นพรรคประชาชาติจะนำตัวแทนของพี่น้องประชาชน จำนวน 15 คนไปยื่นข้อเสนอ รวม 2 ข้อ ได้แก่ ข้อที่ 1 ขอให้รัฐบาลยกเลิกโครงการสร้างเขื่อนท่าแซะ ตำบล สองพี่น้อง อำเภอ ท่าแซะ จังหวัดชุมพรและข้อที่ 2 ขอให้รัฐบาลพิจารณาแนวทางการจัดการน้ำทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่การสร้างเขื่อนเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยเมืองชุมพรต่อคณะกรรมาธิการที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสัปดาห์แรกของการประชุมสมัยสามัญที่ 2 หรือระหว่างวันที่ 4-8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ณ รัฐสภา
"นอกจากนี้ พรรคประชาชาติ จะสำรวจและประมวลข้อเท็จจรืงเกี่ยวกับคนไทยพลัดถิ่น ตลอดจน
จะประสานกับจังหวัดชุมพร เพื่อขอทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการขอสัญชาติไทยของคนไทยไร้สัญชาติที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ดังกล่าวมาหลายชั่วอายุคน พร้อมทั้ง จะรวบรวมคำขอสัญชาติไทยของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในตำบลสองพี่น้องเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านทั้ง 7 พรรค ในโอกาสเดียวกัน ทั้งนี้ เพราะ ได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชน ว่า ได้ส่งคำขอและเอกสารประกอบ ตลอดจน หลักฐานต่างๆ ให้กับนายอำเภอท่าแซะ แล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด" นาง อนงค์ ล่อใจ กล่าวในที่สุด