เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 ก.ย.2562 พ.ต.อ.ประทีป ปัญโญวัฒน์ ผกก.สภ.เวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น เบิกตัวนายพรทิพย์ จันทร์ศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 281 หมู่ 11 ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น มาทำการสอบสวน ในข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล,กระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช้ภริยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้อาวุธและหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังผู้อื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2551
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้หลังสืบทราบว่า มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่นในพื้นที่ หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส จนทราบว่านายพรทิพย์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งยังพบว่ามีประวัติเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีพรากผู้เยาว์ในพื้นที่ สภ.พระยืนเมื่อปี 2551 กำลังเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนทราบว่าผู้ต้องหา จะไปตกปลาที่สระน้ำในหมู่บ้าน พร้อมทั้งทำการซื้อขายยาบ้ากัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เวฬุวันจึงได้วางแผนปลอมตัวเป็นชาวบ้านไปหาปลา ซุ่มอยู่ในจุดที่รับแจ้งจากสายลับ กระทั่งผ่านไป 30 นาที พบนายพรทิพย์ขับรถจักรยานยนต์ท่อเสียงดังมาจอดที่ริมสระ จ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นคนหาปลาจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น โดยพบยาบ้าจำนวน 40 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงได้ขอตรวจปัสสาวะพบเป็นฉี่ม่วง
"ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นยาบ้าของตัวเองและเสพยาเสพติด ทงจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เวฬุวัน ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขับขี่รถขณะมีสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายพรทิพย์ ยังคงได้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มาล่อลวงเด็กหญิง เอ ที่บ้านหนองคู ต.พระยืน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ไปที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเมืองขอนแก่น ออกอุบายว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้ พอเหยื่อหลงเชื่อนั่งรถมาด้วยถูกนายพรทิพย์ พาไปที่ฟาร์มโค ในพื้นที่บ้านคำบอน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วพาขับรถจักรยานยนต์ไปข้างอู่ซ่อมรถในซอยใกล้โรงพยาบาลเวชประสิทธิ์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แล้วข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่อีก 1 ครั้ง ก่อนจะพาเด็กหญิงเอ มาส่งที่บ้าน กระทั่งพ่อแม่เด็กหญิงเอทราบเรื่องจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระยืน กระทั่งมีการออกหมายจับนายพรทิพย์ในเวลาต่อมา และผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีการจับกุมมานานถึง 10 ปี"
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคดียาเสพติดนายพรทิพย์ นั้นยังคงให้การรับสารภาพอีกว่าลักลอบขายยาบ้าให้วัยรุ่นในพื้นที่มาหลายครั้ง โดยรับยาบ้ามาจากพ่อค้าในพื้นที่อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นำมาขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ราคาเม็ดละ 100 บาท ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว และในส่วนของหมายจับข้อหาพรากผู้เยาว์เมื่อปี 51 นั้น นายหลง ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและไม่เคยถูกจับมาถึง 1 ปี โดยจะหนีแวนเวียนลงภาคใต้ไปไปมามา หาหลับนอนตามป่า ไม่ค่อยออกมาเจอผู้คน เพื่อหนีการจับกุม หลังสอบสวนผู้ต้องหาจึงได้ควบคุมตัวนางหลง พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวันดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน ได้ทำเรื่องขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามหมายจับข้อหาพรากผู้เยาว์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้หลังสืบทราบว่า มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่นในพื้นที่ หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแส จนทราบว่านายพรทิพย์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งยังพบว่ามีประวัติเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีพรากผู้เยาว์ในพื้นที่ สภ.พระยืนเมื่อปี 2551 กำลังเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและเฝ้าติดตามพฤติกรรม จนทราบว่าผู้ต้องหา จะไปตกปลาที่สระน้ำในหมู่บ้าน พร้อมทั้งทำการซื้อขายยาบ้ากัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เวฬุวันจึงได้วางแผนปลอมตัวเป็นชาวบ้านไปหาปลา ซุ่มอยู่ในจุดที่รับแจ้งจากสายลับ กระทั่งผ่านไป 30 นาที พบนายพรทิพย์ขับรถจักรยานยนต์ท่อเสียงดังมาจอดที่ริมสระ จ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเป็นคนหาปลาจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจค้น โดยพบยาบ้าจำนวน 40 เม็ดอยู่ในกระเป๋ากางเกง พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงได้ขอตรวจปัสสาวะพบเป็นฉี่ม่วง
"ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นยาบ้าของตัวเองและเสพยาเสพติด ทงจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เวฬุวัน ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขับขี่รถขณะมีสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายพรทิพย์ ยังคงได้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มาล่อลวงเด็กหญิง เอ ที่บ้านหนองคู ต.พระยืน อ.พระยืน จ.ขอนแก่น ไปที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเมืองขอนแก่น ออกอุบายว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้ พอเหยื่อหลงเชื่อนั่งรถมาด้วยถูกนายพรทิพย์ พาไปที่ฟาร์มโค ในพื้นที่บ้านคำบอน ต.โนนท่อน อ.เมือง จ.ขอนแก่น แล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง แล้วพาขับรถจักรยานยนต์ไปข้างอู่ซ่อมรถในซอยใกล้โรงพยาบาลเวชประสิทธิ์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แล้วข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่อีก 1 ครั้ง ก่อนจะพาเด็กหญิงเอ มาส่งที่บ้าน กระทั่งพ่อแม่เด็กหญิงเอทราบเรื่องจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระยืน กระทั่งมีการออกหมายจับนายพรทิพย์ในเวลาต่อมา และผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีการจับกุมมานานถึง 10 ปี"
พ.ต.อ.ประทีป กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคดียาเสพติดนายพรทิพย์ นั้นยังคงให้การรับสารภาพอีกว่าลักลอบขายยาบ้าให้วัยรุ่นในพื้นที่มาหลายครั้ง โดยรับยาบ้ามาจากพ่อค้าในพื้นที่อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นำมาขายให้กับวัยรุ่นในพื้นที่ราคาเม็ดละ 100 บาท ก่อนจะมาถูกจับกุมดังกล่าว และในส่วนของหมายจับข้อหาพรากผู้เยาว์เมื่อปี 51 นั้น นายหลง ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมายจับและไม่เคยถูกจับมาถึง 1 ปี โดยจะหนีแวนเวียนลงภาคใต้ไปไปมามา หาหลับนอนตามป่า ไม่ค่อยออกมาเจอผู้คน เพื่อหนีการจับกุม หลังสอบสวนผู้ต้องหาจึงได้ควบคุมตัวนางหลง พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวฬุวันดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน ได้ทำเรื่องขออายัดตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามหมายจับข้อหาพรากผู้เยาว์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว