"รมช.ประภัตร" เผยพื้นที่เกษตร จ.ร้อยเอ็ดเสียหายกว่า 8 แสนกว่าไร่ ย้ำหน่วยงานรัฐเร่งเข้าเยียวยาฟื้นฟู มั่นใจโครงการส่งเสริมอาชีพหลังน้ำลด ช่วยเกษตรกรมีรายได้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเกษตรกรผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเริ่มจากหอประชุมโรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อ.เสลภูมิ จากนั้น เดินทางไปยังหอประชุมที่ว่าการอำเภอทุ่งเขาหลวง โดยรับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ทั้งสองอำเภอ ตลอดจนพบปะเกษตรกรผู้ประสบภัยกว่ารวมกว่า 2,000 คน พร้อมมอบเสบียงสัตว์ หญ้าแห้งอัดฟ่อน จำนวน 400 ฟ่อน ถุงยังชีพสำหรับสัตว์ 400 ถุง และถุงยังชีพให้กับเกษตรกรรวม 2,000 ชุด จ.ร้อยเอ็ด เป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่สำคัญของประเทศ จากสถานการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.-4 ก.ย. 62 มีพื้นที่ทางการเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 870,712 ไร่ โดยในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย.62) จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2562 ระดับอำเภอ เพื่อดำเนินการติดตามและให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยต่อไป อย่างไรก็ตาม นายกฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานให้เร่งสำรวจความเสียหาย และเยียวยาให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะการส่งเสริมอาชีพหลังน้ำลด ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ เตรียมจะเสนอ ครม. ใน 3 โครงการ ดังนี้ 1.ปลูกถั่วเขียว โดยให้เมล็ดพันธุ์ 5 กก./ไร่ ประกันราคาที่ 30 บาท 2.ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้เมล็ดพันธุ์ 3.5 กก./ไร่ คนละไม่เกิน 10 ไร่  ประกันราคาที่ 8 บาท และ 3. โครงการโคขุนสร้างรายได้ ส่งออกไปจีน เป้าหมาย 1 ล้านตัว โดยกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุนเงินกู้รายละ 120,000 บาท ซื้อลูกโค 5 ตัวๆ ละไม่เกิน 24,000 บาท และมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 250 กก. ประกันวัวตัวละ 100 บาท/เดือน กำหนดระยะเวลาเลี้ยง 4 เดือน โดยเลี้ยงในคอกของตนเอง รวมถึงสนับสนุนเครื่องผสมอาหารตามสูตรของกรมปศุสัตว์ ให้กลุ่มละ 500-1,000 ตัว อีกทั้งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลขุดเจาะวางระบบน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์ 1 บ่อ ใช้ประโยชน์ได้ถึง 700–1,000 ไร่ และรัฐบาลช่วยเหลือดอกเบี้ยให้ 3% เกษตรกรออกเอง 1% และมีประกันความเสียหายหากโคเสียชีวิต ซึ่งจากการพูดคุยและสอบถามความคิดเห็นของเกษตรกรทั้งสองอำเภอนั้น เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยและมีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว