บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์หน้า (23 – 27 ก.ย. 2562) คงมีเรื่องที่ต้องให้ติดตาม ทั้งปัจจัยภายนอกประเทศ และปัจจัยภายในประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯค่อนข้างจะผันผวน ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค สำหรับปัจจัยในประเทศที่ต้องจับตามองในสัปดาห์หน้า"ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ยังต้องติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนในสัปดาห์หน้าเพราะเชื่อว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คงจะยังไม่จบง่าย ๆ แต่หากผลการเจรจาออกมาดีก็อาจจะทำให้ตลาดฯรีบาวด์ขึ้นไปได้ แต่ถ้าผลการเจรจาออกมาไม่ดีก็จะทำให้ตลาดฯเผชิญแรงขาย ดังนั้นทิศทางตลาดฯจึงน่าจะยังผันผวนอยู่ ส่วนปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามกับตัวเลขการส่งออกที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยตัวเลขส่งออก ส.ค.กลับมาหดตัว 4.0% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้จะหดตัว 2.0% และผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้าพร้อมให้แนวรับ 1,620-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 จุด นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์(20ก.ย.2562)ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.45 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.45 - 30.55 บาท/ดอลลาร์ รวมถึงจับตาการประชุมคณะกรรมการกนง. ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 1.50%