มวลน้ำป่า ไหลบ่าทะลักเข้าท่วมชุมชนชายขอบทางด้านท้ายจังหวัดฉะเชิงเทราอย่างต่อเนื่องหลายลูก หลังฝนตกถล่มใส่อย่างหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเริ่มทยอยลดระดับลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เนื่องจากลักษณะของมวลน้ำป่าที่ไหลผ่านเข้ามาสู่หมู่บ้านนั้น เป็นมวลน้ำฝนที่อยู่ใกล้กับแหล่งต้นน้ำ วันที่ 19 ก.ย.62 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บริเวณชายขอบทางด้านท้ายของจังหวัดฉะเชิงเทรา รอยต่อกับพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และสระแก้ว ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่อยู่อาศัยบริเวณบ้านเรือนของประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยชาวบ้านต่างพากันขนชาวของที่อยู่ในที่ต่ำหนีน้ำกันอย่างจ้าละหวั่น เนื่องจากน้ำที่ไหลเข้ามาท่วมสู่หมู่บ้านนั้น มีลักษณะของการไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่แบบเป็นคลื่นของมวลน้ำ หรือมาเป็นลูกๆ ก่อนที่จะพัดผ่านเลยไปและแห้งลงภายในระยะเวลาเพียง 4-7 ชม. ต่อหนึ่งครั้งเท่านั้น แต่ได้สร้างความเสียหายต่อข้าวของที่ชาวบ้านวางไว้ในที่ต่ำ ตลอดจนพืชสวนทางการเกษตร ซึ่งมีทั้งบ่อเลี้ยงปลา และพืชล้มลุก ได้รับความเสียหายไปด้วย จากแรงปะทะและการพัดพาของมวลน้ำ สาเหตุจากการระบายมวลน้ำที่ไหลลงมาจากแหล่งต้นน้ำ ลงสู่คูคลองแหล่งน้ำตามธรรมชาติไม่ทัน จึงล้นออกมาจากเส้นทางน้ำไหล และพัดถล่มลงมาสู่หมู่บ้านเป็นลูกๆ โดยน้ำที่ไหลเข้ามาท่วมนั้นเป็นลักษณะแบบลูกคลื่นที่ไหลล้นบ่าผ่านเข้ามาทางบกจากแหล่งต้นน้ำ เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระหว่างเวลา 04.30-09.00 น. ที่บ้านหนองแสง ม.6 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ขณะเดียวกันที่บ้านคุ้มบัวแดง บริเวณชุมชนบ้านนายาว พื้นที่ ม.15 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านเป็นเวลานานกว่า 7 ชม. เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00 น. ก่อนที่มวลน้ำจะไหลผ่านเลยออกจากหมู่บ้านไปยังทางพื้นที่ จ.สระแก้ว ในเวลา 13.30 น. แต่ได้สร้างความเสียหายต่อพืชสวนทางการเกษตรของชาวบ้านทิ้งไว้ และมีชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 10 ครัวเรือน ซึ่งมวลน้ำป่าที่ไหลบ่าเข้าสู่หลายหมู่บ้านนั้น เป็นมวลน้ำที่เกิดจากป่าในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และสระแก้ว) ที่มีฝนตกหนักลงมาตลอดทั้งคืน จนทำให้ลำคลองสาขาตามธรรมชาติระบายน้ำออกไปยังพื้นที่ทางตอนล่างไม่ทัน