PPS ยกการลงทุนโครงการแหลมยามู จ.ภูเก็ต เป็นโครงการต้นแบบ เดินหน้าลงทุนสัดส่วนไม่เกิน 10% ป้องกันความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หากประสบความสำเร็จมีเครื่องมือทางการเงินรองรับ พร้อมขยายขอบเขตการลงทุนเพิ่ม ด้านธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษา ลุ้นคว้างานใหม่หลายแห่ง พร้อมเดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง หนุน Backlog 366 ล้านบาท ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการลงทุนโครงการในที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ตว่า บริษัทมีการพิจารณาทบทวนและมีความเห็นว่าอาจจะปรับสัดส่วนการลงทุนในโครงการดังกล่าวขอบเขตไม่เกิน 10% เนื่องจากมีวัตถุประสงค์ให้เป็นโครงการต้นแบบเพื่อศึกษารายละเอียดเชิงลึกและประเมินผลตอบแทน “บริษัทมีความตั้งใจที่จะบริหารธุรกิจให้สร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแรงมากขึ้น ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริษัทได้มีการพิจารณาในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วนแล้ว และมีความเห็นว่าบริษัทควรเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันมีกรรมการบริษัทบางท่านได้แสดงความห่วงใยอย่างยิ่งเกี่ยวกับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์และขอให้เน้นพิจารณามุมมองความเสี่ยง และผลกระทบต่องบการเงินของบริษัทเป็นสำคัญ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารจึงพิจารณาว่า บริษัทอาจปรับสัดส่วนการลงทุน เพื่อให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยง และอัตราผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าว ประกอบกับไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินอย่างมีนัยสำคัญหากเกิดปัญหาใดๆ ซึ่งอาจส่งผลให้บริษัทเติบโตช้าลงกว่าแผนงานและเป้าหมายเล็กน้อย” ดร.พงศ์ธร กล่าว ทั้งนี้การลงทุนในสัดส่วนที่ไม่เกิน 10% บริษัทจึงไม่มีความจำเป็นในการใช้แหล่งเงินทุนจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ที่ยืนเสนอไปก่อนหน้านี้ แต่หากในอนาคตโครงการลักษณะนี้สร้างผลตอบแทนที่ดี ก็มีความเป็นไปได้ที่บริษัทจะขยายขอบเขตการลงทุนเพิ่มขึ้น และเป็นการเพิ่มช่องทางในการหารายได้ให้แก่กลุ่มบริษัท อนึ่ง โครงการที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ต เป็นโครงการภายใต้ บริษัทโปรเจคท์ วัน พร็อพเพอตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือPPS ร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้แก่นักลงทุนหรือผู้ที่สนใจ โดยบริษัทในเครือ PPS ทั้งหมดสามารถต่อยอดโอกาสนี้ในการทำหน้าที่เป็น Project support หรือ Technical service ได้ ขณะที่ธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อย ตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศ โครงการภาครัฐยังมีความเสี่ยงเรื่องของความล่าช้า ขณะที่ภาคเอกชนชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตามบริษัทได้ยื่นประมูลงานในครึ่งปีแรกหลายแห่ง อาทิ กลุ่ม Retail งานโรงแรม และงานโรงพยาบาล คาดว่าจะได้รับงานและทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้นไป ส่วนงานโครงการภาครัฐ อาทิ สนามบินอู่ตะเภา อยู่ระหว่างรอผลการประมูล ขณะที่งานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และงานในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) หากโครงการดังกล่าวเปิดประมูลบริษัทได้เตรียมความพร้อมเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทมี Backlog (ณ 31 ส.ค.62) อยู่ที่ 366 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณ 116 ล้านบาทภายในปีนี้ ส่งผลให้บริษัทมีรายได้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว