เพื่อนร่วมอบรมพนักงานสอบสวนช๊อค ผู้กอง สภ.เมือง จ.สิงหบุรี มาอบรมพนักงานสอบสวน ไม่กี่วันจะจบ นอนเป็นศพคาดยิงตัวตายในรถเก๋งส่วนตัว เพื่อนร่วมรุ่นบอกตั้งใจแต่มีบ่นทำคอมพิวเตอร์ไม่ถนัด ก่อนเสียชีวิตยืนนิ่งที่ระเบียงจนเพื่อนหลับก่อนมาพบเป็นศพพร้อมปืนในรถ สืบสวนเร่งหาปมการตายจากญาติอีกครั้ง
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 19 ก.ย.62 ร.ต.ท.วีรพล ขาวสุริจันทร์ รอง สว.สอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในรถยนต์กระบะ ภายในสถาบันส่งเสริมงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.พุทธมณฑล พ.ต.ท.บุญพา ปาระแม รอง ผกก.สอบสวน ชุดสืบสวน สภ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวรรพ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุ ถนนข้างแฟลตที่พักสำหรับนายตำรวจ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน นาวาล่า สีบอร์นเงิน ทะเบียน บฉ 2442 สิงห์บุรี จอดอยู่ริมถนนติดเครื่องและเปิดไฟหน้ารถอยู่ โดยมีศพของ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ใจฉกรรจ์ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรจราจร สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี สภาพศพนั่งอยู่ที่เบาะ คนขับไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีเลือดไหลที่ปากจมูก จึงนำศพออกมาชันสูตรเบื้องต้นพบรอยรูกระสุนที่ศีรษะด้านหลัง ที่พนักพิงศีรษะพบรูกระสุน 1 รู ที่ข้างเบาะคนขับแถบซ้ายพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกร็อก 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในรถอย่างละเอียดและตรวจสอบเขม่าดินปืน ลายนิ้วมือ และส่งศพไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ
โดย ร.ต.อ.สุธี เทียนใหญ่ อายุ 44 ปี รองสวป.สภ.ปากโมก จ.อ่างทอง ผู้พบศพและเป็นเพื่อนผู้ตายเล่าว่า ช่วงเช้าตนเอาขยะมาทิ้งด้านล่างพบรถผู้ตายมาจอดริมถนนจึงเดินไปดูก็พบจอดติดเครื่องอยู่จึงเคาะกระจกเรียกก็ไม่มีการตอบรับพอดีมีเพื่อนตำรวจที่กำลังเดินมาหลายคนช่วยมาและพบว่าแน่นิ่งไปจึงแจ้งตำรวจท้องที่มาตรวจสอบและพบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนกับผู้ตายพักห้องเดี่ยวกัน โดยพักกัน 4 คน ผู้ตายตำแหน่งเดิม รอง สวป.สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี มาสมัครย้ายมาฝ่ายพนักงานสอบสวน จึงมาอบรมด้วยกัน ซึ่งอบรม 3 เดือนโดยจะจบวันที่ 27 ก.ย.นี้แล้ว ที่ผ่านมาผู้ตายก็นิสัยดี มีความมุ่งมั่นมากในการเรียนอบรม เพียงแต่ผู้ตายไม่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์ การพิมพ์และการลงรูปภาพในคอม เคยบ่นอยู่ ซึ่งตนและเพื่อนในรุ่นก็ช่วยกันสอนและแนะนำกันมาตลอดและไม่ทราบว่าผู้ตายจะเครียดเรื่องอะไรเพราะไม่ได้บ่นอะไรให้ฟัง จนเมื่อคืนเวลา เที่ยงคืน พบผู้ตายครั้งสุดท้ายโดยผู้ตายมายื่นที่ หน้าระเบียง จนทุกคนหลับและมาพบจอดรถที่เกิดเหตุยิงตัวตายดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่า ร.ต.อ.ทรงศักดิ์เป็นคนจริงจังในการทำงาน เดิมดูแลงานจราจรที่ สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี และขอย้ายมางานสอบสวนเนื่องจากก้าวหน้าและศึกษากฎหมายมากขึ้น โดยผู้ตายมีภรรยาทำขนมขายและบุตร 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อญาติจาก จ.สิงห์บุรีมาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่ามีความเครียดใดที่ทำให้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 19 ก.ย.62 ร.ต.ท.วีรพล ขาวสุริจันทร์ รอง สว.สอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตในรถยนต์กระบะ ภายในสถาบันส่งเสริมงานสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผกก.สภ.พุทธมณฑล พ.ต.ท.บุญพา ปาระแม รอง ผกก.สอบสวน ชุดสืบสวน สภ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวรรพ.พุทธมณฑล เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุ ถนนข้างแฟลตที่พักสำหรับนายตำรวจ พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ นิสสัน นาวาล่า สีบอร์นเงิน ทะเบียน บฉ 2442 สิงห์บุรี จอดอยู่ริมถนนติดเครื่องและเปิดไฟหน้ารถอยู่ โดยมีศพของ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ใจฉกรรจ์ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง รองสารวัตรจราจร สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี สภาพศพนั่งอยู่ที่เบาะ คนขับไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีเลือดไหลที่ปากจมูก จึงนำศพออกมาชันสูตรเบื้องต้นพบรอยรูกระสุนที่ศีรษะด้านหลัง ที่พนักพิงศีรษะพบรูกระสุน 1 รู ที่ข้างเบาะคนขับแถบซ้ายพบอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อกร็อก 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในรถอย่างละเอียดและตรวจสอบเขม่าดินปืน ลายนิ้วมือ และส่งศพไปผ่าชันสูตรที่ รพ.ตำรวจ
โดย ร.ต.อ.สุธี เทียนใหญ่ อายุ 44 ปี รองสวป.สภ.ปากโมก จ.อ่างทอง ผู้พบศพและเป็นเพื่อนผู้ตายเล่าว่า ช่วงเช้าตนเอาขยะมาทิ้งด้านล่างพบรถผู้ตายมาจอดริมถนนจึงเดินไปดูก็พบจอดติดเครื่องอยู่จึงเคาะกระจกเรียกก็ไม่มีการตอบรับพอดีมีเพื่อนตำรวจที่กำลังเดินมาหลายคนช่วยมาและพบว่าแน่นิ่งไปจึงแจ้งตำรวจท้องที่มาตรวจสอบและพบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนกับผู้ตายพักห้องเดี่ยวกัน โดยพักกัน 4 คน ผู้ตายตำแหน่งเดิม รอง สวป.สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี มาสมัครย้ายมาฝ่ายพนักงานสอบสวน จึงมาอบรมด้วยกัน ซึ่งอบรม 3 เดือนโดยจะจบวันที่ 27 ก.ย.นี้แล้ว ที่ผ่านมาผู้ตายก็นิสัยดี มีความมุ่งมั่นมากในการเรียนอบรม เพียงแต่ผู้ตายไม่เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์ การพิมพ์และการลงรูปภาพในคอม เคยบ่นอยู่ ซึ่งตนและเพื่อนในรุ่นก็ช่วยกันสอนและแนะนำกันมาตลอดและไม่ทราบว่าผู้ตายจะเครียดเรื่องอะไรเพราะไม่ได้บ่นอะไรให้ฟัง จนเมื่อคืนเวลา เที่ยงคืน พบผู้ตายครั้งสุดท้ายโดยผู้ตายมายื่นที่ หน้าระเบียง จนทุกคนหลับและมาพบจอดรถที่เกิดเหตุยิงตัวตายดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่า ร.ต.อ.ทรงศักดิ์เป็นคนจริงจังในการทำงาน เดิมดูแลงานจราจรที่ สภ.เมือง จ.สิงห์บุรี และขอย้ายมางานสอบสวนเนื่องจากก้าวหน้าและศึกษากฎหมายมากขึ้น โดยผู้ตายมีภรรยาทำขนมขายและบุตร 2 คน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อญาติจาก จ.สิงห์บุรีมาสอบปากคำเพิ่มเติม ว่ามีความเครียดใดที่ทำให้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวอย่างละเอียดอีกครั้ง