หมอดินอาสาตำบลหนองเป็ด ฟื้นดินตายจากสาร พด. ทำเกษตรผสมผสาน สร้างรายได้ที่มั่นคง แต่เดิม นายพัฒษ์พงษ์ มงคลกาญจนคุณ เกษตรกร และหมอดินอาสา ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ทำการเกษตรแบบเชิงเดี่ยว ปลูกเพียงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีรายได้เพียงปีละครั้ง ซึ่งไม่เพียงพอกับรายจ่าย จึงปรับเปลี่ยนความคิด หันมาทำเกษตรผสมผสาน เพาะปลูกพืชหลากหลาย ทำให้ตลอดทั้งปีนั้น มีรายได้พอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ โดยมีพี่เลี้ยงหลัก จากสถานีพัฒนาที่ดินกาญจนบุรีถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการปรับปรุงดิน ส่งเสริมให้สารอินทรีย์ทดแทนการใช้สารเคมี เพื่อผลผลิตที่ปลอดภัย นายพัฒษ์พงษ์ มงคลกาญจนคุณ หมอดินอาสา ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า อดีตการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ใช้ปุ๋ยเคมี ใช้ยาฆ่าแมลง ใช้จ่ายกับวัชพืชหนัก ทำให้ดินมีการเสื่อมโทรม ก็คือเรื่องของดินตาย ดินแข็งกระด้าง สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ก็มองเห็นเรื่องของการพัฒนาที่ดินก็มาส่งเสริมเรื่องการปรับปรุงบำรุงดินด้วยพืชปุ๋ยสด ก็คือปอเทือง ถั่วพร้า เรื่องของการใช้จุลินทรีย์ เรื่องการหมักปุ๋ยใช้เองในพื้นที่ สนับสนุนปัจจัยเรื่องของสารเร่ง ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สารเร่งพด.1 พด.2 พด.3 พด.4 พด.5 พด.6 "ผมภูมิใจมากที่สุด คือ พอพื้นที่ของเราได้เป็นศูนย์เรียนรู้ เราได้ความสุข คือ เราได้มีโอกาสให้องค์ความรู้กับคนที่เคยขาดโอกาสแบบตัวเราเอง อดีตเราขาดโอกาส เพราะว่าเราไม่รู้จะหาความรู้จากไหน พอเราเริ่มแล้วมีหน่วยงานมาสนับสนุนให้เรามีความรู้ เพราะฉะนั้นความรู้ที่เราได้ไป มันเป็นข้อดีจากคนที่เคยขาดโอกาสอย่างเรา ได้เผยแพร่ให้องค์ความรู้ให้กับเกษตรกรที่ยังเดินทางผิดแบบเราในอดีต กลับไปมีความรู้ เหมือนเรา แล้วช่วยกันพัฒนาเรื่องของการทำเกษตรในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์ ช่วยกันพัฒนาเรื่องของการผลิตอาหารที่ปลอดภัย"นายพัฒษ์พงษ์ กล่าว ปัจจุบัน ได้พัฒนาพื้นที่การเกษตรเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน ของตำบลหนองเป็ด เพื่อให้เกษตรกรในบริเวณใกล้เคียง ได้มาเรียนรู้วิธีการทำเกษตรผสมผสาน และการพัฒนาที่ดิน นำความรู้กลับไปดูแลที่ดินของตนเอง นอกจากนี้นายพัฒษ์พงษ์ ยังได้มีการแปรรูปผลผลิตเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่า นั่นคือ กล้วยตาก โดยใช้โรงเรือนระบบปิดกล้วยตากอบแห้ง พลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ด้าน นายจิระพล พิมภู นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สถานีพัฒนาที่ดินกาญจนบุรี กล่าวว่า จากการที่สถานีพัฒนาที่ดินกาญจนบุรีมาส่งเสริมพื้นที่ก็ทำให้ สามารถที่จะผลิตพืชได้เหมาะสมกับดินยิ่งขึ้น คือเขารู้ดินเขารู้ดินก่อนปลูกพืช และก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น เหมาะที่จะปลูกพืชได้หลายรูปแบบในแปลงที่ไม่สม่ำเสมอแบบนี้ ถ้าหากพัฒน์พงษ์ไม่ไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์มันก็ไม่ดีขึ้นอยู่แล้ว ทุกอย่างที่กรมพัฒนาที่ดินนำมาสามารถที่จะทำให้ปลูกพืชได้ผลผลิตดีขึ้นแล้วก็รายได้ดีขึ้น ทั้งนี้ นโยบายของกรมพัฒนาที่ดินให้มีการจัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดกิจการพัฒนาที่ดิน ทุกๆ ตำบล แต่ว่าในจังหวัดกาญจนบุรียังจัดตั้งไม่ครบทุกตำบล ซึ่งได้ประมาณ 80 เปอเซ็นแล้ว ของอำเภอศรีสวัสดิ์ มีจัดตั้งครบทุกอำเภอ ทุกตำบลแล้ว มีตำบลละ 1 จุด โดยไปจัดตั้ง ในพื้นที่ๆ ของหมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน หรือ ตำบล ที่มีต้นทุน มีความสามารถในการ เป็นจิตอาสา สามารถถ่ายทอดและเผยแพร่ ให้กับพี่น้องเกษตรกรที่มาเรียนรู้ และแปลงพื้นที่เหมาะสมที่จะเป็นตัวอย่างในการปลูกพืช ในการใช้ที่ดิน ประชาชนหรือเกษตรกร ที่เข้ามาเอาความรู้จากศูนย์ถ่ายทอดตรงจะได้รับประโยชน์มาก ตามพื้นที่ที่เขามีอยู่แล้ว ตรงนี้คือเป็นการจัดการดินที่ถูกต้อง และสามารถนำเอาความรู้ หรือตัวอย่างในการใช้ที่ดิน ไปใช้กับตัวเองได้ด้วย ไปดัดแปลงเอา "สุดท้ายเราต้องไม่ลืมว่า ดิน เป็นเสาตอหม้อ หรือว่ารากฐาน ของการปลูกพืช ดินสร้างชีวิต มิตรแท้ชาวบ้าน เกื้อกูลกิจการ ทำนาสวนไร่ ผลิตผลเพิ่มพูนนำหนุนกำไร ชีวิตสดใสเนื่องจากดินดี บางถิ่นดินด้อยลดน้อยผลิตผล ขาดทุนปี้ป่นซึมเศร้าหมองศรี ประสบปัญหานานามากมี แต่ละท้องที่แตกต่างกันออกไป ดินเค็มดินเปรี้ยวดินตื้นดินดานดินทรายจัดจ้าน ดินด้อยอื่นใด หากมีปัญหาจงอย่านอนใจ มุ่งมั่นแก้ไขอย่ารอรา ถ้ายังไม่แน่จะแก้อย่างไร หมอดินช่วยได้ หมอดินอาสาประจำหมู่บ้านก็ได้ ร่วมแรงแข็งขันช่วยกันพัฒนา ดินมีปัญหาปรึกษาหมอดิน สถานีพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดินใกล้บ้านท่าน”นายจิระพล กล่าว