เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 18 ก.ย.62นายฤทธิ์เดช ชัยยังอายุุ42ปี อยู่บ้านเลขที่2/9หมู่6ต.ไทรโสภา อ.พระแสงจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.พิเศษศักดิ์ ขำทอง สว.(สอบสวน)สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมกับถุงกระดาษสีน้ำตาล ภายในมีเธนบัตรชนิดต่างๆๆกว่า2หมื่นบาท โดยระบุว่าต้องการนำมาคืนเจ้าของ
นายฤทธิเดช ให้การว่าตนเองทำงานสำนักธนารักษ์ นนทบุรี ตำแหน่งควบคุมดูแลครุภัณฑ์และระบบไฟฟ้า โดยเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ก.ย.ขณะตนเองนั่งรถจยย.ของน้องที่ทำงานกลับจากเยี่ยมพ่อที่อินโดไทย คอนโด มาถึงปากซอยรัตนาธิเบศร์ 18 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรีพบซองกระดาษสีขาวตกอยู่จึงได้เก็บดูพบว่ามีเงิน 28,565 บาท ตนและน้องได้ยืนรอว่าจะมีเจ้าของมารับคืน แต่รอแล้วยังไม่มีใครมาสอบถาม และตนต้องกลับไปทำงาน ได้เก็บเงินไว้ วันนี้ได้นำเงินดังกล่าวมาส่งให้มอบให้กับตำรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของมารับไป
นายฤทธิเดช กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกว่าเจ้าของเงินคงร้อนใจที่ทำเงินหาย ตนพยายามลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อประกาศหาเจ้าของแต่ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา ตอนที่ตนพบเงินมีเงินติดตัวแค่ 40 บาท ถ้าตนทำเงิน 40 บาทนั้นหายตนก็คงเดือนร้อน ยิ่งเศษฐกิจอย่างนี้ด้วย เจ้าของเงินคงจะทุกข์มากกว่าผม เพราะเงินดังกล่าวมีจำนวนไม่น้อยเลย
ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ขอชื่นชมนายฤทธิเดช ที่เก็บเงินได้แล้วนำมาส่งมอบให้ตำรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของ ได้สั่งให้ตำรวจสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่พบเงินเพื่อตามหาเจ้าของมารับเงินจำนวนดังกล่าว คาดว่าเป็นเงินที่เจ้าของเตรียมนำไปชำระหนี้สิน
นายฤทธิเดช กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกว่าเจ้าของเงินคงร้อนใจที่ทำเงินหาย ตนพยายามลงในเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อประกาศหาเจ้าของแต่ยังไม่มีใครติดต่อกลับมา ตอนที่ตนพบเงินมีเงินติดตัวแค่ 40 บาท ถ้าตนทำเงิน 40 บาทนั้นหายตนก็คงเดือนร้อน ยิ่งเศษฐกิจอย่างนี้ด้วย เจ้าของเงินคงจะทุกข์มากกว่าผม เพราะเงินดังกล่าวมีจำนวนไม่น้อยเลย
ด้าน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่า ขอชื่นชมนายฤทธิเดช ที่เก็บเงินได้แล้วนำมาส่งมอบให้ตำรวจเพื่อติดตามหาเจ้าของ ได้สั่งให้ตำรวจสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่พบเงินเพื่อตามหาเจ้าของมารับเงินจำนวนดังกล่าว คาดว่าเป็นเงินที่เจ้าของเตรียมนำไปชำระหนี้สิน