ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ภาคเช้าวันนี้(18ก.ย.62)ดัชนีปิดอยู่ที่ระดับ 1,657.59 จุด ลดลง 6.34 จุด(-0.38%) มูลค่าการซื้อขาย 33,391.03 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,664.81 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,654.25 จุด น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลง รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ถอยลงมาหลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงแรงหลังจากซาอุดีอาระเบียได้ออกมาบอกว่าจะสามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตได้สิ้นเดือนนี้ และทางสหรัฐฯก็ได้เอาน้ำมันสำรองออกมาขาย โดยวันนี้หุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นได้หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดทางให้ธนาคารพาณิชย์ นำสำรองส่วนที่สูงกว่าจำนวนเงินสำรองที่ต้องกันตาม IFRS9 ณ วันแรก กลับรายการมาบันทึกเป็นกำไร โดยให้ทยอยตัดลดสำรองส่วนเกิน ตามวิธีเส้นตรงเป็นระยะเวลา 5 ปี ทำให้เป็นบวกต่อผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ได้ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยต่างรอผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะออกมาเร็วๆนี้ ซึ่งตลาดฯคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% แต่ให้จับตาการส่งสัญญาณจากเฟดว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะยังติดลบอยู่ โดยมีแนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660-1,670 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,562.03 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท ลดลง 1.25 บาท,PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,357.80 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ลดลง 3.25 บาท,PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,927.70 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท ลดลง 5.00 บาท ,IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,574.73 ล้านบาท ปิดที่ 32.00 บาท ลดลง 2.50 บาท,GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,557.14 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท