นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Wattana Muangsuk ระบุว่า... ความแตกต่างระหว่างนายกทักษิณกับประยุทธ์คือที่มาแห่งอำนาจ นายกทักษิณให้ความสำคัญกับประชาชนเพราะประชาชนเลือกท่าน ส่วนประยุทธ์เข้าสู่อำนาจด้วยปืนและรถถังและการสืบทอดอำนาจต่อก็ไม่ได้มาจากประชาชน เพราะประชาชนไม่ได้เลือกประยุทธ์และพรรคการเมืองที่ประกาศหนุนประยุทธ์ให้เป็นนายกต่อ การดำรงอยู่ของอำนาจของประยุทธ์จึงไม่ได้อยู่ที่ประชาชน หากแต่อยู่ที่กองทัพ ส.ว. องค์กรอิสระ รัฐราชการและรัฐธรรมนูญที่ตั้งคนมาเขียนเองที่ค้ำยันอำนาจให้ ประยุทธ์จึงให้ความสำคัญและประเคนสิทธิประโยชน์ทั้งหลายให้คนเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นการให้วันทวีคูณกับทหารและตำรวจ การขึ้นเงินเดือนย้อนหลังให้กับข้าราชการ หรือแม้ในยามที่ประชาชนทุกข์ยากไม่มีจะกินแต่เราก็ยังเห็นประยุทธ์พูดด้วยความภาคภูมิใจว่าต้องให้กองทัพซื้ออาวุธไม่ให้อายชาติอื่นที่ยังใช้ของเก่า แต่การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมรัฐบาลต้องรับบริจาคและให้เหตุผลที่ไม่อยากไปดูแลว่า “ประชาชนชอบขอเงิน” นายกทักษิณทำให้คนยากจนมีความเป็นมนุษย์เท่ากับบุคคลอื่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคและหนึ่งอำเภอหนึ่งทุนจึงถูกนำมาใช้เพื่อให้ลูกหลานคนยากจนได้มีโอกาสไปเรียนต่างประเทศนำความรู้กลับมาพัฒนาท้องถิ่นตัวเอง ท่านเลือกที่จะติดอาวุธให้กับประชาชนก่อนกองทัพ ดังนั้น งบประมาณที่มีจึงถูกนำมาใช้จ่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชนก่อนเสมอส่วนรายจ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เช่นงบทางการทหารจะถูกจัดลำดับไว้ภายหลัง ตลอดอายุของรัฐบาลทักษิณงบประมาณในส่วนกระทรวงกลาโหมจึงไม่เพิ่มเหมือนสมัยประยุทธ์ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ถูกออกแบบมาเพื่อค้ำยันอำนาจเผด็จการ นั่นคือเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านรณรงค์เพื่อให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตั้ง สสร. เพื่อให้เป็นรัฐธรรมที่มาจากประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่งแต่เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกรัฐบาลที่มาจากประชาชนและทำเพื่อประชาชน ปัญหาจึงอยู่ที่ ส.ว. และพรรคร่วมรัฐบาลจะยอมให้ประชาชนมีโอกาสเขียนรัฐธรรมนูญของตัวเองหรือไม่ วัดใจกันครับ