กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกร ให้แจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกครั้งเมื่อเริ่มผลิตใหม่ เพื่อรับความช่วยเหลือเมื่อได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติด้านพืช นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ทะเบียนเกษตรกรคือข้อมูลครัวเรือนของผู้ประกอบการเกษตร เกษตรกรที่มีทะเบียนเกษตรกรจะสามารถเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของรัฐบาล และได้รับความช่วยเหลือกรณีที่แปลงปลูกพืชได้รับความเสียหายจากการประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลัง เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้ว ต้องทำการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกครั้งเมื่อเริ่มต้นการผลิตใหม่หลังการเพาะปลูก 15-60 วัน ซึ่งสามารถปรับปรุงทะเบียนได้ตลอดปีขึ้นอยู่กับช่วงเวลาการปลูกของแต่ละชนิดพืช โดยเกษตรกรสามารถติดต่อปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน หรือบนแอพพลิเคชั่น DOAE Farmbook ที่กรมส่งเสริมการเกษตรพัฒนาขึ้นในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android หากเป็นเกษตรกรรายใหม่ หรือเกษตรกรรายเดิมที่ต้องการเพิ่มแปลงใหม่ จำเป็นต้องติดต่อขึ้นทะเบียนเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอเท่านั้น สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย หากมีพื้นที่ทำการเพาะปลูกซึ่งเสียหายโดยสิ้นเชิง จะมีการให้ความช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง รายละไม่เกิน 30 ไร่ ได้แก่ ข้าว อัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ อัตราไร่ละ 1,148 บาท พืชสวนและอื่นๆ อัตรา ไร่ละ 1,690 บาท ทั้งนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติและผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่การให้ความช่วยเหลือฯ เกษตรกรต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ 01) โดยให้ผู้นำท้องถิ่นรับรอง ก่อนที่จะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกร และพื้นที่เสียหายจริง เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอและสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน