“สนค.”ระบุเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุมีผลต่อราคาน้ำมันระยะสั้น พร้อมคงเป้าส่งออกครึ่งปีหลังร้อยละ 3.0 ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อํานวยการสํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์โรงกลั่นน้ำมันของซาอุดีอาระเบียถูกโจมตีอย่างรุนแรงด้วยโดรนจนเป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้เกิดความเสียหายอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซลดลงครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิต หรือประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือร้อยละ 5.0 ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 16 ก.ย.62 ราคาน้ำมันเบรนท์สูงขึ้น 10 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 72 ดอลลาร์สหรัฐฯค่อบาร์เรล ทั้งนี้จากสถานการณ์ปัจจุบันสามารถคาดการณ์ได้ 2 กรณีคือ กรณีที่ 1.สถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ 1.1.ซาอุดีอาระเบียสามารถแก้ไขสถานการณ์เป็นปกติและกลับมาผลิตระดับเดิมได้อย่างรวดเร็ว 1.2.ไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกทั้งในประเทศซาอุดีอาระเบียหรือประเทศผู้ผลิตน้ำมันสําคัญรายอื่นๆ 1.3.สถานการณ์ความขัดแย้งไม่ขยายนํามาสู่ผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 1.4.ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายอื่นๆสามารถส่งออกน้ำมันชดเชยการลดลงของซาอุดีอาระเบียได้ ภายใต้สมมติฐานนี้คาดว่าราคาน้ำมันเดือนก.ย.62 จะสูงขึ้นเป็น 65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลดลงเข้าสู่ปกติในช่วงที่เหลือของปีระดับ 62.5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปี (ก.ย.-ธ.ค.62) เฉลี่ยอยู่ที่ 63.1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 69.4 หรือลดลงร้อยละ 9.0 ส่วนกรณีที่ 2 สถานการณ์ยืดเยื้อ ทําให้ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลืออยู่ที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เนื่องจากอาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่คาดไม่ถึงส่งผลให้ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ในกรณีนี้จะทําให้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี (ก.ย.-ธ.ค.62) เฉลี่ยอยู่ที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล แตยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 69.4 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลดลงร้อยละ 6.3 ทั้งนี้คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์จะไม่ยืดเยื้อ ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์เดิมเพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 0.01 และทั้งปียังอยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.7-1.3 อย่างไรก็ตามพบว่าผลของน้ำมันไม่ว่ากรณีที่ 1 หรือ 2 จะส่งผลต่อเงินเฟ้อน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลของค่าเงิน โดย สนค.คาดว่า การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีจะทําให้เงินเฟ้อลดลงร้อยละ 0.17 และทําให้เงินเฟ้อทั้งปีต่ำกว่า 1.0 สําหรับการส่งออกจะปรับตัวดีกว่าคาดการณ์เดิมประมาณร้อยละ 0.1 ทั้งนี้ สนค.ยังคงเป้าหมายการส่งออกครึ่งปีหลังร้อยละ 3.0 ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ