น้ำท่วมเกาะช้างเข้าสู่พาวะปกติ ไฟฟ้าใช้เสาทำทางเท้าข้ามสะพานให้นทท.เดินทางกลับ พร้อมติดเสาไฟฟ้าท่ี่เสียหาย ,ด้านอ.เมืองท่วมหนัก ถนนสุขุสวิทไปคลองใหญ่ไปไม่ได้ ทางหลวงตราดเตือนรถเล็กอย่าเดินทางไป อ.เกาะช้าง จ.ตราด /สถานการณ์น้ำท่วมอ.เกาะช้างคลี่คลายแล้ว และกลับสู่สภาวะปกติ แต่ต้องเร่งแก้ไขปรับปรุงมาก เช้าวันนี้ (16ก.ย.62)นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนันต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า หลังจากในช่วงกลางคืนฝนไม่ตกลงมาเพิ่มเติม ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเกาะช้างได้คลี่คลายสู่สภาวะปกติ และทิ้งร่อยรอยความเสียหายจำนวนมาก โดยที่บ้านเรือน โรงแรม และรีสอร์ท ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งยังต้องสรุปถึงความเสียหายจากทางอำเภออีกครั้ง ซึ่งต้องรอความชัดเจน อย่างไรก็ตาม สะพานที่คลองพลูขาดนั้นยังต้องมีการซ่อมแซมอีกนาน แต่ในเบี้ยงต้นทางการไฟฟ้าเกาะช้างได้นำเสาไฟฟ้ามาวางเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าข้ามไปขึ้นรถยนต์ที่ท่างอำเภอเกาะช้างได้เตรียมไว้และส่งกลับกรุงเทพแล้ว กำนันต.เกาะช้าง กล่าวว่า ในส่วนของช้างของปางช้างชุติมันท์ทีทเสียชีวิตนั้น ไม่ทราบในรายละเอียด เพียงแต่ทราบว่า เป็นของนายอุ๊ ที่มากจากจ.สุรินทร์ เท่านั้น สำหรับไฟฟ้าที่ล้มเพราะดินสไลด์นั้น การไฟฟ้าเกาะช้างได้เร่งดำเนินการติดตั้งแล้ว และน่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว ขณะที่อ.เมืองตราด มีฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะบนเขาบรรทัด ทำให้น้ำป่าไหลจากเขาบรรทัดลงมาที่ต.ตะกาง และต.ชำราก และไหลงท่วมถนนสุขุมวิท ที่บ้านหนองรี ต.ชำราก และมีความยาวหลายร้อยเมตร มีระดับความสูง 80-90 ซม.ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กเดินทางลำบาก และระดับน้ำมีความสูงขึ้นเรื่อยๆ นายสมเดช โสภณดิเรกรัตน์ ผู้อำนวยการแขวงการทางตราด เปิดเผยว่า ถนนสุขุวิทกม.ที่423+200 ในพื้นที่ต.ชำราก มีน้ำท่วมทางระดับความสูงเกือบ 1 เมตร รถยนต์ไม่วามารถเดินทางไปได้ทั้งหมด โดยระดับน้ำในช่วงเวลา 10.00 น.มีแนวโน้มที่จะมีความสูงขึ้น เนื่องจากยังมีน้ำป่าไหลลงมาอย่าต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าทางหลวงกำลังเร่งระบายน้ำอยู่ นอกจากนี้ ทางหลวงหมายเลข 3271ตอน เนินสูง-ด่านชุมพลระหว่างกม4+100-4+400 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. ระดับน้ำ ท่วมขัง 2 ช่องจราจร การจราจรผ่านไม่ได้ และเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงด่านชุมพล ดำเนินการ ตั้งป้ายเตือน และอำนวยความสะดวก นอกจากนี้อ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด มีน้ำล้นลงมาจากอ่างเก็บน้ำ และไหลลงคลองห้วยแร้งทำให้หลายหมู่บ้านในต.ท่ากุ่ม และต.ห้วยแร้งมีน้ำท่วมแล้ว โดยสวนยาวพาราและพืชผลทางการเกษตรได้รับผลกระทบจำนวนมาก ส่วนบ้านเรือนยังไม่ได้รับรายงานตัวเลขที่แน่ชัด