หนุ่มขอนแก่นวัย 49 ปี วอนมือปราบผีเข้ามาช่วยพิสูจน์ หลังถูกผีคุกคามมานานเกือบ 10 ปี ข้าวของย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งขณะที่ไม่มีคนอยู่บ้าน ทั้งที่ปิดประตู-หน้าต่างแน่หนาทุกบาน ร่องรอยงัดแงะก็ไม่มี พร้อมเขียนข้อความทำนองหึงหวงแปะไว้นับร้อยฉบับ เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 15 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นที่บ้านเลขที่ 2/4 ซ.ทุ่งรวงทอง 3 เขตเทศบาลเมืองเมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น ที่พบว่ามีกระดาษเขียนติดแปะทั่วทั้งบ้านนับร้อยแผ่นรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านเคลื่อนย้ายเองโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยพบกับนายเชิดศักดิ์ จันทศรี อายุ 49 ปี อาชีพสอนขับรถ ซึ่งได้นำจดหมายที่มีข้อความเขียนใส่กระดาษทั้งแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ นับร้อยแผ่นมาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งจากการสังเกตพบว่า ลายมือในจดหมายนั้นเป็นลายมือของคน คนเดียวกัน เป็นข้อความในเชิงต่อว่านายเชิดศักดิ์มีทั้งในลักษณะของการหึงหวงและต่อว่าต่อขานในเชิงเจ้าชู้ ทั้งยังคงได้มีการต่อว่าภรรยาของนายเชิดศักดิ์ด้วย นายเชิดศักดิ์ บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงวันนี้ก็ยังคงไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร และเป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจครอบครัวอย่างมาก เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวนี้นั้นเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2552 วันนี้ยังหาคนทำไม่ได้ จึงคิดว่า น่าจะเกิดสิ่งผิดปกติ และสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น ที่ตามวนเวียนตนเองอยู่ทุกที่ " ก่อนหน้านี้ผมอาศัยอยู่ใน กรุงเทพฯ ก็เริ่มมีจดหมายและสิ่งผิดปกติที่ลี้ลับต่างๆเกิดขึ้น จนต้องย้ายมาอยู่ ที่บ้านเช่าหลังนี้ แต่สิ่งดังกล่าวก็ยังตามมารังควานไม่หยุด ซึ่งบ้านที่เช่าหลังปัจจุบันที่ครอบครัวอาศัยอยู่นี้นั้นมีอยู่ 3 ห้อง ประกอบด้วยห้องนอน ห้องเก็บของและห้องน้ำ ทุกวันภรรยาจะออกจากบ้านไปทำงาน กลับบ้านในตอนเย็น และผมก็จะออกไปสอนขับรถ โดยจะล็อกประตูหน้าต่างเรียบร้อย แต่เมื่อกลับเข้าบ้านก็จะเห็นจดหมายแปะไว้ตามที่ต่างๆภายในบ้าน วางบนโต๊ะบ้าง แปะไว้ที่กระเป๋าบ้าง หรือเขียนข้อความบนปฏิทินตั้งโต๊ะบ้าง บางวันเสื้อผ้าที่แขวนไว้ในห้องเก็บของก็มากองไว้ที่ประตูทางออก บางวันก็พบเสื้อผ้าพับอย่างดีวางไว้ในบ้าน" นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นนั้นยังคงเกิดขึ้นบ่อยครั้งบางวันภรรยาเดินเข้าห้องก็ค้ลายกับถูกคนใช้เท้าถีบเตะ ซึ่งโดยส่วนตัวสงสารภรรยาอย่างมากที่ต้องถูกคุกคาม ทุกวันนี้ทุกคนในบ้านไม่มีความสุข ทุกวันเมื่ออกจากบ้านไปแล้วจะกลับมาที่บ้านก็ต้อมเตรียมใจว่าแต่ละวันจะเจอเรื่องแปลกอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้น จนคิดว่าบางครั้งตนเองอยากฆ่าตัวตาย กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่ต้องการที่จะเจิกับสิ่งลี้ลีบที่ตามมาหลอกหลอนนานนับ 10 ปี " ผมเองพยายามจะจับให้ได้ว่าใครทำ หรือมีคนลักลอบเข้ามาในบ้านหรือไม่ แต่ไม่เคยพบสิ่งผิดปกติ เพื่อนบ้านก็ไม่เคยพบเห็นคนเข้าออกในบ้าน และทุกคนก็ยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จนกล่าวหาว่าผมบ้า จึงอยากให้ใครก็ได้ที่มีเครื่องมืออุปกรณ์เกี่ยวกับกล้องถ่ายภาพทั้งกลางวันและกลางคืน มาทำการตรวจสอบสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นในครอบครัวให้ด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง เพราะเป็นทุกข์กับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก" นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2552 ขณะทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่ใน กรุงเทพฯ โดยได้คบหากับแฟนเก่า ซึ่งแฟนคนเก่านั้นได้พาไปดูการถ่ายละครอิงประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่ง จากนั้นแฟนก็เปลี่ยนไปจึงเลิกรากันไป ก่อนจะมาคบหากับภรรยาคนปัจจุบันนานกว่า 10 ปี โดยเช่าบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกันเป็นหลังที่ 2 หลังแรกที่อยู่ด้วยกันก็ถูกเหตุการณ์ในลักษณธเดียวกันจนต้องย้ายออก จนมาหลังนี้ก็ยังคงถูกตามหลอกหลอนอยู่เช่นเดิม จึงตัดสินใจแจ้งเรื่องผ่านสื่อมวลชนเพื่อเป็นกระบอกเสียงช่วยเหลือประชาชนรวมทั้งขอให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยคลายความเดือดร้อนให้กับครอบครัวด้วย