เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 15 ก.ย.62 พล.ท. จตุพร กลัมพสุต รอง ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ผอ.สนง.ข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ขออนุมัติหมายศาลนาทวี เพื่อเข้าตรวจค้นโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลา ตั้งอยู่ หมู่ 8 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุด ฉก.สงขลา และเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้น และก่อนการตรวจค้นมีการประชางานกับผู้นำศาสนา ผู้บริหารโรงเรียน เพื่อทำหน้าที่เป็นสักขีพยานในการตรวจค้นครั้งนี้
โดยการเข้าตรวจค้น เมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 14 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พิทยาคม ธรรมพิทักษ์ ผช.ฝขว. ฉก.ตชด.43 ได้รับการแจ้งจากสายข่าวว่า มี”แนวร่วม” ขบวนการแบ่งแยกดินแดน เข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา จึงได้ร่วมกับ ชปข. ขกท. พล.ร.15 ออกหาข่าว และพบเป้าหมายผู้ต้องสงสัย ใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน กฉ.9154 สงขลา ขับมาบนถนนสายเอเชีย และขับไปจอดที่ร้านสะดวกซื้อ ในพื้นที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา จึงประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา เข้าตรวจค้น แต่คนในรถยนต์ จำนวน 4 คน ไหวตัว วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จับกุมได้ 2 คน นำมาอบสวนที่ สภ.ห้วยปลิง
สำหรับถูกจับกุมทั้ง 2 คนได้แก่นายเดะแว อาแว อายุ 34 ปี อยู่ที่ 104 หมู่ 12 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการลอบยิงสำนักสง์ชะเมา อ.โคกโพธิ์ จ.เทพา และนายสาการียา อาแวลาเตะ อายุ 30 ปี อยู่ที่ 91 / 4 หมู่ 6 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดก่อวินาศกรรมเสาไฟฟ้าใน อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อ ปลายปี 2561 และจากการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ พบกระสุนปืนขนาด .5.56 มม.จำนวน 90 นัด อุปกรณ์ที่ใช้ดำรงชีพในป่า เสื้อ ผ้า โทรศัพท์มือถือ และ อื่นๆ รวม 44 รายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ได้ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่เจ้าของ อุปกรณ์ทั้งหมดภายในรถยนต์ และอ้างว่าเป็นของเพื่อน ทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป
สำหรับผู้ที่วิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ ได้แก่นาย อับดุลเลาะ บาเฮง และนายฮาฟิส โต๊ะแวมะ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเกี่ยวข้องกับ คดีต่างๆในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่สองที่หลบหนีไป เป็น สมาชิกระดับปฏิบัติการของ อาร์เคเค ที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ มีหมายจับ พรก.ติดตัวอยู่หลายหมายด้วยกัน
จากการสอบสวน ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ราย ให้การตรงกันว่า พวกตนทั้ง 4 คน ได้อาศัยอยู่ใน โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ เป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลัง เพื่อเข้าตรวจค้น โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งผู้ต้องหาได้ชี้ห้องพักในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ที่เป็นที่หลบซ่อนได้ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บ ดีเอ็นเอ และหลักฐานอื่นๆ เพื่อสืบสวนสอบสวนถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป
แต่..ในการเข้าตรวจค้นส่วนอื่นๆ ของโรงเรียน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงได้ทำการขอหมายศาล เพื่อเข้าตรวจค้น ส่วนอื่นๆของโรงเรียนอีกครั้งในเช้าวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งจากการตรวจค้น ไม่พบผู้ต้องสงสัย และหลักฐานใดๆ ในโรงเรียนดังกล่าว
ซึ่ง พล.ท.จตุพร เปิดเผยว่า คนร้ายทั้งหมด 4 คน เป็น แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน และบางคนเป็นมือปืนรับจ้าง มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งใน จ.สงขลา และ ปัตตานี ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ส่งตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตาม พรก.ฉุกเฉิน ส่งศูนย์ซักถาม ขกท. สน.จชต. เพื่อดำเนินการ ซักถาม และ ติดตามผู้ที่หลบหนีอีก 2 คน มาเข้าสู้ขบวนการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งเป็นผู้ให้ที่พักพิง จะได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวมาสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ในเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาการให้ที่พักพิงแต่อย่างใด
และผลของการสอบสวน ในเบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลว่า คนทั้ง 4 มีส่วนในการเกี่ยวข้องกับการ ปล้นร้านทอง สุธาดา ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา แต่อย่างใด
สำหรับถูกจับกุมทั้ง 2 คนได้แก่นายเดะแว อาแว อายุ 34 ปี อยู่ที่ 104 หมู่ 12 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการลอบยิงสำนักสง์ชะเมา อ.โคกโพธิ์ จ.เทพา และนายสาการียา อาแวลาเตะ อายุ 30 ปี อยู่ที่ 91 / 4 หมู่ 6 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดก่อวินาศกรรมเสาไฟฟ้าใน อ.ควนเนียง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เมื่อ ปลายปี 2561 และจากการตรวจสอบรถยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะ พบกระสุนปืนขนาด .5.56 มม.จำนวน 90 นัด อุปกรณ์ที่ใช้ดำรงชีพในป่า เสื้อ ผ้า โทรศัพท์มือถือ และ อื่นๆ รวม 44 รายการ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ได้ ปฏิเสธว่า ไม่ใช่เจ้าของ อุปกรณ์ทั้งหมดภายในรถยนต์ และอ้างว่าเป็นของเพื่อน ทั้ง 2 คนที่หลบหนีไป
สำหรับผู้ที่วิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ ได้แก่นาย อับดุลเลาะ บาเฮง และนายฮาฟิส โต๊ะแวมะ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่าเกี่ยวข้องกับ คดีต่างๆในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่สองที่หลบหนีไป เป็น สมาชิกระดับปฏิบัติการของ อาร์เคเค ที่ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ มีหมายจับ พรก.ติดตัวอยู่หลายหมายด้วยกัน
จากการสอบสวน ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 2 ราย ให้การตรงกันว่า พวกตนทั้ง 4 คน ได้อาศัยอยู่ใน โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ เป็นเวลา 3-4 เดือนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลัง เพื่อเข้าตรวจค้น โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งผู้ต้องหาได้ชี้ห้องพักในโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ที่เป็นที่หลบซ่อนได้ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บ ดีเอ็นเอ และหลักฐานอื่นๆ เพื่อสืบสวนสอบสวนถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป
แต่..ในการเข้าตรวจค้นส่วนอื่นๆ ของโรงเรียน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงได้ทำการขอหมายศาล เพื่อเข้าตรวจค้น ส่วนอื่นๆของโรงเรียนอีกครั้งในเช้าวันที่ 15 ก.ย. ซึ่งจากการตรวจค้น ไม่พบผู้ต้องสงสัย และหลักฐานใดๆ ในโรงเรียนดังกล่าว
ซึ่ง พล.ท.จตุพร เปิดเผยว่า คนร้ายทั้งหมด 4 คน เป็น แนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดน และบางคนเป็นมือปืนรับจ้าง มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งใน จ.สงขลา และ ปัตตานี ซึ่งหลังจากนี้ จะได้ส่งตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตาม พรก.ฉุกเฉิน ส่งศูนย์ซักถาม ขกท. สน.จชต. เพื่อดำเนินการ ซักถาม และ ติดตามผู้ที่หลบหนีอีก 2 คน มาเข้าสู้ขบวนการ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ ซึ่งเป็นผู้ให้ที่พักพิง จะได้เรียกผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวมาสืบสวนสอบสวนอีกครั้ง ในเบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อหาการให้ที่พักพิงแต่อย่างใด
และผลของการสอบสวน ในเบื้องต้น ยังไม่มีข้อมูลว่า คนทั้ง 4 มีส่วนในการเกี่ยวข้องกับการ ปล้นร้านทอง สุธาดา ที่ อ.นาทวี จ.สงขลา แต่อย่างใด