วันที่ 15 ก.ย.62 น.ส.แววตา โต๊ะทอง หรือ เจ๊เอี้ยง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/9 หมู่1 ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตเจ้าของธุรกิจต้มปลาตากแห้งส่งออก เปิดเผยว่า หลังจากกิจการเดิมประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ จึงได้ตัดสินใจลงทุนสร้างฟาร์ม “นกเอี้ยงเพรียงทราย” โดยค้นคว้าข้อมูลจากกูเกิ้ล จากนั้นไปขอความรู้เพิ่มเติมกับผู้ที่มีประสบการณ์ที่ จ.ชุมพร และตัดสินใจสร้างเป็นฟาร์มเพื่อลี้ยงเพรียงทราย มีบ่อพัก 108 บ่อ บ่อพักน้ำทะเลอีก 3 บ่อ ใช้งบลงทุนประมาณ 3 ล้านบาท พร้อมผ่านขั้นตอนการตรวจสอบจากกรมประมง เพื่อผลิตเพรียงทรายให้ได้มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นฟาร์มแห่งแรกและแห่งเดียวใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ “ ขณะนี้สามารถเก็บเพรียงทรายขายได้วันละ ประมาณ 40 กิโลกรัม(กก.) สร้างรายได้วันละ 20,000 - 30,000 บาท เชื่อว่าธุรกิจนี้ยังมีอนาคต เนื่องจากเพรียงทรายถูกนำไปผลิตเป็นอาหารในฟาร์มเลี้ยงกุ้งทะเล ปัจจุบันนอกจากตลาดในประเทศ ยังมีลูกค้าจากประเทศบังกลาเทศ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการศึกษาวิธีการส่งออก และในอนาคตจะขยายฟาร์ม เพื่อสร้างโรงเพาะเลี้ยง 600 บ่อ สำหรับการเพาะเลี้ยงเพรียงทรายไม่มีขั้นตอนยุ่งอยาก ที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของแหล่งน้ำจากทะเล ” น.ส.แววตา กล่าว น.ส.แววตา ขณะนี้มีการทดลองผลิตเพรียงทรายตากแห้งเพื่อทำเป็นอาหารเสริม โดยนำเพรียงทรายพ่อแม่พันธ์ที่ตากแห้งบดเป็นผงบรรจุแคปซูล เพื่อเป็นอาหารเสริมสำหรับคนทุกเพศทุกวัย ที่ผ่านได้นำไปแจกจ่ายให้เพื่อนบ้านนำไปทดลองรับประทานฟรี ซึ่งได้ผลตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ จากนั้นจะส่งตัวอย่างแคปซูลเพรียงทรายตากแห้งไปให้คณะกรรมการอาหารและยา( อย.) เพื่อขอใบอนุญาตผลิต เป็นรายแรกในประเทศไทย สำหรับเพียงทรายตากแห้ง จะช่วยทำให้มีผลดีกับระบบขับถ่าย บำบัดอาการปวดข้อ ปวดเข่าหรือเป็นโรคเก๊าท์ ขณะนี้ได้ผลิตอาหารเสริมแคปซูลแล้วมากกว่า 1 หมื่นเม็ด แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ที่ให้ความสนใจหลังจากทดลองนำไปรับประทานเป็นประจำ มีรายงานว่า สำหรับ เพรียงทราย(Sandworm) เป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง อาศัยอยู่บริเวณชายหาดใต้ผืนทราย ขณะนี้เป็นที่ต้องการเพื่อนำไปผลิตเป็นอาหารสำหรับธุรกิจฟาร์มกุ้ง เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง มีราคาซื้อขาย กก.ละ 600 - 800 บาท ขึ้นกับขนาดของเพรียง โดยวงจรชีวิตช่วงที่เหมาะสมในการขายเป็นอาหารกุ้งจะเป็นช่วงอายุประมาณ 6 เดือน