วันที่ 15 ก.ย.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan ระบุว่า...วันก่อนสภาได้เห็นชอบร่วมกันให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีค่ะ ที่เราจะได้ใช้ “สภา” ระดมความคิด ในการฉุดประเทศออกจากหล่ม เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนสู่ประเทศไทย เพื่อสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับไปแข็งแกร่ง เหตุผลหลักๆ ที่ควรแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพราะ 1. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำลาย Trust & Confident ของคนไทยและนานาชาติตั้งแต่กติกาการเลือกตั้งที่แปลกแยก แตกต่างจากหลักการพื้นฐานประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยอมรับ ผลการเลือกตั้งจากสูตรคำนวณ สส.ที่พิสดาร. การกำหนด สว. 250 คน มาจากการแต่งตั้งของ คสช. และให้มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีแทนประชาชน ทั้งหมดล้วนขัดกับหลักพื้นฐานของประชาธิปไตยสากลแต่ถึงแม้จะใช้รัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว ที่ คสช.เขียนเองบวกกับการใช้อำนาจของ คสช. อย่างเต็มที่ก็ยังทำได้แค่จัดตั้งรัฐบาลแบบเสียงปริ่มน้ำ ไร้เสถียรภาพ มีพรรคร่วมรัฐบาลร่วม 20 พรรค ไม่มีเอกภาพในตนเอง เราจึงเห็นแต่ภาพการต่อรองผลประโยชน์ของคนในรัฐบาล เพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อประชาชน ตั้งแต่ก้าวแรกของการจัดตั้งรัฐบาลเช่นการแย่งกระทรวง จนถึงปัจจุบันนี้ก็แย่ง Project แย่งงบประมาณกัน“เกิดการเมืองแบบคอยขโมยงูเห่า” และ. “การเมืองแบบลิงกินกล้วย” ที่ต้องคอยป้อนแต่ลิงให้กินอิ่ม แต่ปล่อยประชาชนอดอยาก รัฐบาลที่ไร้เสถียรภาพแบบนี้ จึงไม่สามารถสร้างความมั่นใจ ให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ จะเห็นได้จากตัวเลขการลงทุนที่ไม่กระเตื้องขึ้น ต่ำเตี้ยติดดิน ทั้งที่รัฐบาลลดแลกแจกแถมเต็มที่ และยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและประชาชนทั่วไป ในการลงทุนและจับจ่ายใช้สอย สภาพปัจจุบันเงินล้นธนาคารแต่กลับไม่มีการลงทุนใหม่ และกำลังซื้อยังตกต่ำไปเรื่อยๆ คนมีตังค์ไม่กล้าใช้ เพราะมองไม่เห็นอนาคต ขาด Trust & Confident ส่วนคนจนก็ไม่มีจะกิน ไม่มีตังค์จับจ่ายใช้สอย หนีครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำลาย Trust & Confident ของคนไทยและนานาชาติ การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ต้องอาศัยการสร้าง Trust & Confident ให้ได้ก่อน คือการทำให้นักลงทุน นักธุรกิจ ประชาชน ผู้เป็นกำลังในการจับจ่ายใช้สอยให้เกิดความมั่นใจ และมองเห็นอนาคต จึงจะกล้าลงทุน กล้าใช้เงิน เศรษฐกิจจึงจะขับเคลื่อนได้ แต่ด้วยรัฐธรรมนูญแบบนี้ ยากมากที่จะสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับนานาชาติ ขณะที่ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำมายาวนานต่อเนื่องตลอด 5-6 ปี ของการบริหารงานภายใต้นายกที่ชื่อ ประยุทธ์ ได้ทำให้กำลังซื้อในประเทศหดหายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ค่าเงินบาทสูง ส่งออกไม่ได้ ท่องเที่ยวสลบ เครื่องยนต์ขันเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศดับทุกตัว คนไทยมองไม่เห็นอนาคตว่าเราจะไปยังไงต่อประกอบกับสงครามการค้าระหว่างชาติมหาอำนาจ สภาวะเศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ รัฐบาลที่เก่งในด้านเศรษฐกิจ ยังแก้ปัญหาลำบาก ยิ่งได้รัฐบาลที่ไม่เก่งเศรษฐกิจแบบนี้และบวกกับไม่มีความน่าเชื่อถือ ยิ่งแก้ยากเข้าไปใหญ่ 2. รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาประเทศ รัฐธรรมนูญนี้ คสช. ออกแบบมาเพื่อควบคุมการบริหารงานของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทุกเรื่อง ตั้งแต่การกำหนดให้มีการแถลงนโยบาย โดยให้ระบุแหล่งที่มาของรายได้ การรายงานผลการดำเนินการทุก 3 เดือนต่อสภา การกำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และการตั้งกรรมการยุทธศาสตร์ชาติกำกับการทำงานของรัฐบาล ห้ามออกนอกกรอบ การออกนอกกรอบอาจทำให้นายกและรัฐมนตรีติดคุกได้ง่ายๆ กฎเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญแบบนี้ยากมากต่อการทำงานของรัฐบาล แม้เป็นรัฐบาล คสช. เองที่เขียนกฎเกณฑ์ในรัฐธรรมนูญขึ้นมาเอง ยังทำตามรัฐธรรมนูญของตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้เมื่อ 6 เมษายน 2560 รัฐบาล คสช. จึงต้องออก ม.44 มานับ 10 ฉบับ เพื่อยกเว้นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ตัวเองเขียนมากับมือ หลังการเลือกตั้งก็ปรากฏเหตุการณ์แบบเดียวกัน ว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ทำผิดรัฐธรรมนูญของตัวเองอย่างน้อย 2 ครั้งแล้วคือ การถวายสัตย์ปฏิญาณต่อองค์พระมหากษัตริย์ และการแถลงนโยบายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ดังนั้นแม้แต่รัฐบาลสืบทอดอำนาจจะสามารถคุมองค์กรอิสระต่างๆ ได้ ก็ยังทำงานยาก ถ้าเป็นฝั่งฝ่ายค้านในขณะนี้ไปเป็นรัฐบาลคงจะโดนดำเนินคดีติดคุกกันระนาวแล้ว แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าการเป็นรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญแบบนี้แทบจะทำงานอะไรให้สำเร็จไม่ได้เลย จึงถือเป็น #รัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศอย่างยิ่ง 3. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ โฆษณาเกินจริง ไม่ตรงปก ที่บอกว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกงก็ไม่จริง แต่น่าจะเป็นรัฐธรรมนูญส่งเสริมการโกงมากกว่า ตั้งแต่เลือกตั้งโกงผลคะแนน บัตรเขย่ง เลือกตั้งชนะได้สส.1 ที่ แพ้ได้ สส. 2 ที่ ข้อเท็จจริง คือ ตั้งแต่ใช้รัฐธรรมนูญ​นี้มามีการตรวจสอบและลงโทษแบบเล่นพวก ถ้าเป็นตัวเองและพวกก็จะรอดการตรวจสอบ และรอดจากการลงโทษเป็นแบบขัดความรู้สึกสังคมและประชาชน แบบกรณียืมนาฬิกาเพื่อนมูลค่าหลายสิบล้าน เป็นต้น ทั้งหมดสรุปได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนขึ้นมาเพื่อพวกสืบทอดอำนาจ อย่างที่รัฐมนตรีบางคนของรัฐบาลนี้ได้กล่าวไว้ ว่า"รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ออกแบบมาเพื่อพรรคพลังประชารัฐ" รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงไม่ใช่รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชนและ ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ และทำลายความมั่นใจของนักลงทุนและประชาชน รวมทั้งยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ตามตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ดีมาก หาก สส.จากทุกพรรค ทุกฝ่ายจะใช้เวทีสภา ในการตั้งกรรมาธิการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ หาวิธีและแนวทางที่จะแก้ไขรัฐ ธรรมนูญนี้ให้เป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการบริหารราชการแผนดิน ปัญหาการตรวจสอบทุจริตที่อ่อนแอ ฝากความหวังและความจริงใจต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการทุกท่าน เพื่อให้ได้ "รัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน" จริงๆ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ​เพื่อผู้มีอำนาจอย่างที่ผ่านมานะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านค่ะ ทำภารกิจเพื่อชาติให้สำเร็จ​ร่วมกัน ให้สำเร็จ​นะคะ #ร่วมสร้าง #รัฐธรรมนูญ​เพื่อประชาชน​ ให้ได้ โดยการเลือกสสร. มาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แตะต้องหมวด 1 เรื่องรูปแบบรัฐ. และหมวด 2 คือหมวดพระมหากษัตริย์ เสร็จแล้ว เอากลับไปให้ประชาชนลงประชามติ ถ้าเริ่มวันนี้กว่าจะสำเร็จก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรรอช้าอีกต่อไป เพราะประชาชนตายกันหมดแล้ว #ทุกข์ของประชาชนรอช้าไม่ได้