จากกรณีเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของ “น้องโมโน” วัย 10 ขวบ ที่เรียนอยู่ชั้นป.4 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดช่องลม) เทศบาลเมืองราชบุรี โดยมีนายกฤษดา สายทินกร อายุ 61 ปี ผู้เป็นพ่อหนีออกจากโรงพยาบาลราชบุรี ระหว่างรักษาอาการป่วยโรคหัวใจ เนื่องจากห่วงลูกสาว แต่กลับมาเสียชีวิตขณะมานอนกอดน้องโมโนที่บ้านพักของนายจ้าง และศพถูกเก็บรักษาอยู่ห้องพักศพ ตึกนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลราชบุรี เป็นเวลา 6 วัน โดยไม่มีญาติมาติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศล ส่วนน้องโมโนถูกส่งตัวไปอยู่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ราชบุรี กระทั่งเรื่องราวสุดรันทดดังกล่าวถูกสื่อมวลชนมานำเสนอ จนสังคมให้ความสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้หลายหน่วยงานดำเนินการให้การช่วยเหลือจนสามารถนำร่างของพ่อโมโน ออกมาบำเพ็ญกุศลได้ที่ วัดช่องลม จ.ราชบุรี ล่าสุดวันนี้ (14 ก.ย.62) เมื่อเวลา 16.00 น. นายณัฐวุฒิ เลิศสุโภชวณิชย์ อายุ 25 อยู่บ้านเลขที่ 209/211 ถ.อัมรินทร์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี นายจ้างหนุ่มของนายกฤษดา(เฮียหมู) สายทินกร หรือพ่อน้องโมโน ได้เดิมทางมาเคารพศพ เนื่องจากได้รับทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ว่า สามารถนำศพของพ่อน้องโมโนออกมาบำเพ็ญกุศลได้แล้ว ขณะเดินทางไปทำธุระที่กรุงเทพฯ จนวันนี้หลังจากที่เดินทางกลับมาจากทำธุระเมื่อช่วงบ่ายแล้ว จึงรีบเดินทางมาเคารพศพของพ่อน้องโมโนทันที พร้อมยังได้เปิดใจกับทางผู้สื่อข่าวว่า มีประชาชนจำนวนมาก ได้โทรศัพท์เข้าไปต่อว่าตนเองไม่ได้ให้การช่วยเหลือนายกฤษดา และน้องโมโน มากกว่า 400 สาย จนลุกลามไปถึงครอบครัวและญาติพี่น้องของนายณัฐวุฒิด้วย โดยนายณัฐวุฒิ นายจ้างหนุ่ม ได้กล่าวเปิดใจหลังเคารพศพพ่อน้องโมโนเสร็จแล้วว่า ตนได้ให้การช่วยเหลือดูแลพ่อและน้องโมโน มาตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งเฮียหมูได้มาอยู่ทำงานกับตน ซึ่งที่ผ่านมาที่ร้านไม่ได้มีงานอะไรให้ทำมากนัก ตนจึงให้การอุปการะช่วยเหลือเฮียและน้องโมโนมาโดยการให้มาอยู่ที่ร้านที่เกิดเหตุแทน โดยมีค่าตอบแทนให้วันละ 400 บาท ส่วนที่พักให้อยู่ฟรี ซึ่งวันที่เกิตเหตุตนก็อยู่ในช่วงเกิดเหตุด้วยเพราะมีหมอนวดโทรมาแจ้งว่า เฮียหมูเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนเองก็ไปที่เกิดเหตุทันที ซึ่งวันนั้นตนได้เป็นคนติดต่อแจ้งความกับตำรวจ และประสานกับทางโรงพยาบาล และวันที่เกิดเหตุญาติและตนได้ขออุปการะน้องโมโน แต่เนื่องจากทางตนไม่ใช่ญาติ จึงไม่สามารถขออุปการะน้องโมโนได้ ส่วนศพของเฮียหมูตนก็พยายามติดต่อขอให้หน่วยงานเข้าไปนำศพของเฮียหมูออกมาบำเพ็ญกุศลให้ แต่ทางตำรวจและทางโรงพยาบาลบอกว่าต้องเป็นญาติเท่านั้นถึงจะนำศพเฮียหมูออกมาบำเพ็ญกุศลได้ ตนจึงไม่สามารถทำอะไรได้ และต้องยอมให้น้องโมโนไปอยู่บ้านพักเด็ก นายณัฐวุฒิ นายจ้างหนุ่ม ยังกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีคนโทรศัพท์มต่อว่าตนและครอบครัวของตนเองจำนวนมาก ว่าไม่ให้การช่วยเหลือเฮียหมูและน้องโมโน นั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนได้ให้การดูแลเฮียหมูและน้องโมโนมาตั้งแต่แรก และให้การช่วยเหลืออยู่ตลอด แต่เมื่อเฮียหมูมาเสียชีวิต ตนเองไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอะไร จนทำให้มีคนที่ไม่เข้าใจหาว่าตนไม่ได้ให้การดูแลช่วยเหลือเฮียหมูและน้องโมโน ซึ่งตนติดต่อของรับศพเฮียหมู และอุปการะน้องโมโนตั้งแต่แรกแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้เพราะไม่ใช่ญาติ โดยตั้งแต่เกิดเหตุตนก็ได้แจ้งความ และติดต่อประสานญาติทางเฮียหมู ญาติก็บอกว่าไม่รับรู้ ตนเองก็ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดเทศบาลเมืองราชบุรี และทุกคนที่มีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ที่ได้ช่วยนำศพเฮียหมูออกมาบำเพ็ญกุศล และช่วยเหลือน้องโมโน ส่วนการสวดพระอภิธรรมร่างขอพ่อน้องโมโน ในคืนที่สอง ซึ่งมี ส.ส.กุลวลี-นายนิต นพอมรบดี, แม่บ้านมหาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรี เป็นเจ้าภาพ โดยพิธีสวดพระอภิธรรมพ่อน้องโมโนจะเริ่มช่วงเวลา 19.30 น. ที่ศาลาวัดช่องลม จ.ราชบุรี