“รมช.ประภัตร” ดันศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก เป็นแหล่งส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่มีศักยภาพ ผนึกกรมน้ำขุดบ่อบาดาลปลูกพืชอาหารสัตว์ วันที่ 14 ก.ย. นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก จ.ตาก และมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ โดยมีนายอำพันธุ์ เวฬุตันติ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ด้านการผลิต และนายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ด้านการบริหาร ให้การต้อนรับ และร่วมฟังนโยบาย นายประภัตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ได้หารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางพัฒนาและยกระดับศักยภาพของศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตากซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,500 ไร่ เป็นแหล่งผลิตและพัฒนาพันธุ์โคเพื่อให้เป็นศูนย์ส่งเสริมและให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ ให้มีความเพียงพอและมีคุณภาพรองรับในการให้บริการแก่เกษตรกร โดยได้ประสานความร่วมมือจากกรมทรัพยากรน้ำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนการขุดบ่อบาดาล และกรมชลประทานร่วมบูรณาการจัดการน้ำเพื่อการปลูกพืชอาหารสัตว์ให้เพียงพอ ทั้งนี้ ประเทศไทยมีการนำเข้าโคเนื้อพันธุ์ดีและเนื้อโคคุณภาพดีจากต่างประเทศจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ไทยต้องเสียดุลการค้าระหว่างประเทศปีละหลายล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์จึงมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก ดำเนินการสร้างโคพันธุ์ตากให้เป็นโคเนื้อพันธุ์ใหม่ของประเทศ ตั้งแต่ปี 2529 วัตถุประสงค์เพื่อทดแทนการนำเข้าโคเนื้อและเนื้อโคคุณภาพดีจากต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อผลิตโคพ่อพันธุ์และน้ำเชื้อแข็งกระจายพันธุกรรมให้กับเกษตรกรเครือข่ายสัตว์พันธุ์ดีและผู้สนใจทั่วไป ปัจจุบันมีแม่โคพันธุ์ตาก ประมาณ 500 ตัว ใน 3 แห่ง คือ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธ์ุสัตว์ตาก จำนวน 200 ตัว ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธ์ุสัตว์นครสวรรค์ จำนวน 200 ตัว และศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์พิษณุโลก จำนวน 100 ตัว ซึ่งโคสายพันธุ์ตากเป็นโคที่มีการเจริญเติบโตเร็ว เนื้อนุ่ม และปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมของประเทศได้ดี