พิษณุโลก : เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกรมทางหลวง ได้ดำเนินการก่อสร้างสะพานสี่แยกอินโดจีน ข้ามแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 12 จังหวัดพิษณุโลก สี่แยกอินโดจีน ซึ่งเป็นถนนสายหลักสำคัญ ที่เป็นประตูจากภาคกลางสู่ภาคเหนือ และจากภาคตะวันตกสู่ภาคตะวันออก รวมไปถึงเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าในภูมิภาคนี้ กับประเทศเพื่อนบ้าน ตามเส้นทางหลักในการเชื่อมโยง East-West Economic Corridor เพื่อเป็นการลดปัญหาการจราจรที่ติดขัด ซึ่งนับวันจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญและฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง นายเจษดา บุญรอด ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิษณุโลกที่ 2 (วังทอง) สำนักงานทางหลวงที่ 5 กรมทางหลวง กล่าวว่า กรมทางหลวง โดยสำนักก่อสร้างสะพานดำเนินการโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับ ทางหลวงหมายเลข 12 (แยกอินโดจีน) จ.พิษณุโลก ที่ผ่านมา มีปัญหาด้านการจราจรคับคั่งและชุมชนหนาแน่น แต่ปัจจุบันได้จัดการจราจรด้วยไฟสัญญาณจราจร ทำให้ไม่สามารถรองรับปริมาณการเดินทางได้อย่างเพียงพอ ส่งผลกระทบต่อกระแสการจราจรบนเส้นทางหลักบนทางหลวงหมายเลข 12 และ ทางหลวงหมายเลข 126 ทำให้เกิดความล่าช้าในการเดินทาง กรมทางหลวง จึงมีการปรับปรุงบริเวณทางแยกโครงการฯ เป็นทางแยกต่างระดับเพื่อให้รถในแต่ละทิศทางสามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องติดสัญญาณไฟจราจร เป็นการแก้ไขปัญหาการจราจรในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 12 และ ทางหลวงหมายเลข 126 (แยกอินโดจีน) จ.พิษณุโลก โครงการดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นก่อสร้าง ที่ กม.238+000 และ จุดสิ้นสุดการก่อสร้างที่ กม.240+500 รวมระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร การก่อสร้างเป็นแบบมาตรฐานทางชั้นพิเศษ งบประมาณ 849,950,000 บาท ล่าสุด โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 12 (แยกอินโดจีน) จังหวัดพิษณุโลก)ได้เสร็จสิ้น100% แล้ว เหลืองานตกแต่งเล็กน้อย โดยได้เปิดให้ใช้วิ่งสัญจรไปมาได้แล้ว ทั้ง 2 เส้นทางจราจร ขาเข้า-ขาออก ในวันนี้(14 ก.ย.) เป็นวันแรก ซึ่งหลังเปิดใช้นั้นพบว่าการจราจรภาพรวมคล่องตัวดี ในวงเวียนก็ไม่ติดขึ้น ซึ่งทางแขวงการทาง ได้สำรวจไว้แล้วพบว่า การจราจรในช่วงสะพานสี่แยกอินโดจีน นั้นจะมีการใช้สัญจรไปมาถึง 80 % ส่วนวงเวียนที่เป็นเส้นทางจากภาคกลางสู่ภาคเหนือ นั้น จะใช้อยู่ประมาณ 20% ทำให้คาดว่าในอนาคตก็จะสามารถแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้เป็นอย่างดี นายเจษดา กล่าว. กิตติพงษ์ ทุนเพิ่ม ทีมข่าวภูมิภาค